ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 35.16 จุด นลท.ยังกังวลความขัดแย้งในตอ.กลาง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ ท่ามกลางความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าจะเข้าร่วมสงครามนี้ด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,206.82 จุด เพิ่มขึ้น 35.16 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,967.84 จุด ลดลง 13.03 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,447.41 จุด ลดลง 98.86 จุด หรือ -0.51%

การซื้อขายตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P500 ปิดลบในรอบสัปดาห์นี้ ในขณะที่ Nasdaq ปิดบวก

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์แทบไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.2%

ปริมาณการซื้อขายในวันศุกร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวัน Triple Witching Day คือวันที่สัญญาทางการเงินหมดอายุพร้อมกัน 3 ประเภท ซึ่งได้แก่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้น ออปชันดัชนีหุ้น และออปชันหุ้นรายตัว ซึ่งเกิดขึ้นไตรมาสละครั้ง ทำให้ตลาดผันผวนและมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.091 หมื่นล้านหุ้น สูงกว่าค่าเฉลี่ย 20 วันก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.806 หมื่นล้านหุ้น

อิหร่านประกาศว่าจะไม่หารือเกี่ยวกับอนาคตของโครงการนิวเคลียร์ในขณะที่ถูกอิสราเอลโจมตี แม้ว่ายุโรปพยายามโน้มน้าวให้อิหร่านกลับเข้าสู่การเจรจาก็ตาม

ทำเนียบขาวระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าว่า จะให้สหรัฐฯ เข้าร่วมในสงครามทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านหรือไม่ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านให้เข้าสู่การเจรจา

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า บรรดานักลงทุนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการซื้อหุ้นในช่วงก่อนที่สถานการณ์จะชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์นี้

การโจมตีของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่การยับยั้งขีดความสามารถของอิหร่านในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยในช่วงหนึ่งสัปดาห์ของการโจมตีนั้น อิสราเอลระบุว่าได้ถล่มเป้าหมายทางทหารหลายสิบแห่งของอิหร่าน

นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเตือนว่า อัตราเงินเฟ้ออาจเร่งตัวขึ้นในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่เริ่มส่งผ่านไปยังผู้บริโภค

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจากภาษียังมีน้อย และเฟดควรลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ขณะที่ โธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์มีมุมมองที่ระมัดระวังมากกว่า โดยระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดดอกเบี้ย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งปรับตัวลง 1.12% เป็นปัจจัยกดดันหลักต่อดัชนี S&P500 และ Nasdaq

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นโครเกอร์ (Kroger) พุ่งขึ้น 9.8% หลังจากเชนค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของยอดขายทั้งปี

หุ้นเอคเซนเชอร์(Accenture) ร่วงลง 6.9% หลังจากผู้ให้บริการด้านไอทีรายนี้เปิดเผยว่า ปริมาณสัญญาซื้อบริการใหม่ของบริษัทในไตรมาส 3 ลดลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 68)