ทรัมป์เสนองบกลาโหม 8.9 แสนล้านดอลล์ จ่อเพิ่มโดรน-มิสไซล์ แต่หั่นงบซื้อ F-35

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เสนอคำของบประมาณด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติประจำปี 2569 วงเงิน 8.926 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นวงเงินที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยงบประมาณนี้รวมถึงกิจกรรมด้านอาวุธนิวเคลียร์ของกระทรวงพลังงานและงบประมาณความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่เพิ่มขึ้น

ข้อเสนอนี้เน้นปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกองทัพ ด้วยการเพิ่มการจัดหาขีปนาวุธและโดรนไฮเทค พร้อมขึ้นเงินเดือนให้กำลังพล 3.8% แต่ลดการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 และเรือรบ รวมถึงลดอัตรากำลังพลเรือนของกองทัพเรือ เพื่อนำงบประมาณไปใช้ป้องปรามจีนในอินโด-แปซิฟิก และฟื้นฟูฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

ภายใต้ข้อเสนอนี้ ทรัมป์ต้องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่ผลิตโดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) เพียง 47 ลำ ลดลงจากคำขอ 68 ลำในสมัยรัฐบาลปธน.โจ ไบเดน และจะจัดซื้อเรือรบใหม่เพียง 3 ลำ นอกจากนี้ยังเสนอให้กองทัพเรือลดจำนวนพนักงานพลเรือนลง 7,286 ตำแหน่ง และปลดระวางยุทโธปกรณ์รุ่นเก่าที่มีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูง

งบประมาณจะมุ่งเน้นการลงทุนในโดรนขนาดเล็ก ซึ่งได้บทเรียนจากสมรภูมิยูเครน รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลสำหรับใช้ในแปซิฟิก เช่น ขีปนาวุธร่อนโจมตีจากอากาศสู่พื้นพิสัยไกล (JASSM-ER) และขีปนาวุธต่อต้านเรือรบพิสัยไกล (LRASM) ในทางกลับกัน ข้อเสนอนี้ได้ลดการจัดซื้อขีปนาวุธโจมตีความแม่นยำสูง (Precision Strike Missile) ลงอย่างมาก ซึ่งจะมาแทนที่ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก (ATACMS) ที่ใช้ในยูเครน

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวได้จุดประกายการถกเถียงในสภาคองเกรส โดยร่างกฎหมายของคณะอนุกรรมาธิการกลาโหมแห่งสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอเพิ่มยอดจัดซื้อ F-35 เป็น 69 ลำ

คำของบประมาณฉบับนี้ไม่ได้รวมงบประมาณส่วนใหญ่สำหรับโครงการโล่ป้องกันขีปนาวุธ “โกลเดนโดม” (Golden Dome) ของทรัมป์ โดยงบส่วนนี้ถูกแยกไปอยู่ในคำขออีกฉบับ เช่นเดียวกับการจัดหาเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย และเรืออื่น ๆ อีก 15 ลำ ที่คาดว่าจะอยู่ในร่างกฎหมายงบประมาณจัดสรรอีกฉบับหนึ่ง

รายละเอียดคำของบประมาณนี้มีขึ้น ขณะที่พรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาแพ็กเกจงบกลาโหมมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ใน “ร่างกฎหมายฉบับที่สวยงามและยิ่งใหญ่” (One Big Beautiful Bill Act) ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และจะจัดสรรงบเบื้องต้น 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับโครงการ “โกลเดนโดม”

โดยปกติ งบประมาณกลาโหมของสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายตามดุลยพินิจ (discretionary budget) ของประเทศ ส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรให้แก่หน่วยงานด้านคมนาคม การศึกษา การทูต และอื่น ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 68)