
ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจขยายเวลาการระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ที่กำหนดไว้ 90 วัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 9 ก.ค.นี้
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในการแถลงข่าวว่า กำหนดเส้นตายดังกล่าวไม่เร่งรีบถึงขั้นวิกฤต
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คำกล่าวของโฆษกทำเนียบขาวมีขึ้นในขณะที่หัวหน้าทีมเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นเดินทางถึงกรุงวอชิงตันเพื่อหารือรอบใหม่กับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง และโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ
“ท่านประธานาธิบดีสามารถเสนอข้อตกลงให้กับประเทศเหล่านี้หากพวกเขาปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงกับเราภายในกำหนดเส้นตาย ซึ่งหมายความว่าท่านประธานาธิบดีสามารถเลือกกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ในอัตราที่ท่านเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกา” เลวิตต์กล่าว และเสริมว่า สหรัฐฯ มีการหารือที่ “ดีมากและมีประสิทธิผลกับประเทศคู่ค้าหลักหลายราย”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับการระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากร เลวิตต์กล่าวว่า “อาจมีการขยายเวลาออกไปได้ แต่ก็เป็นการตัดสินใจของท่านประธานาธิบดี”
คำแถลงของเลวิตต์มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นและประเทศคู่ค้าหลัก ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงเจรจากับทีมการค้าของปธน.ทรัมป์เพื่อขอผ่อนปรนภาษี หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้านับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
การระงับใช้มาตรการภาษีเป็นเวลา 90 วันนั้น สหรัฐฯ ผ่อนปรนให้เฉพาะประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งครอบคลุมคู่ค้าประมาณ 60 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยการระงับภาษีชั่วคราวนี้ไม่มีผลกับภาษีศุลกากรขั้นพื้นฐานในอัตรา 10% ที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 68)