
จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 32 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพญาเม็งรายอำเภอเวียงชัย อำเภอเชียงแสน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และอำเภอเทิง เบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ
วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยในลักษณะเช่นนี้อีกและนำกลับมารายงานให้ทราบ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ได้คลี่คลายและระดับน้ำได้ลดลงแล้ว ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้เร่งเข้าทำความสะอาด ศาสนสถาน อาคารโรงเรียน และบ้านเรือนประชาชน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย จังหวัดเชียงรายมีงบประมาณในส่วนของเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฯ ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือครอบคลุมด้านการดำรงชีพและที่อยู่อาศัยของประชาชน อาทิ ค่าซ่อมแซมวัสดุที่อยู่อาศัยประจำที่ได้รับความเสียหายเท่าที่จ่ายจริงหลังละไม่เกิน 49,500 บาท ค่าวัสดุซ่อมแซมโรงเรือนครอบครัวละ 5,700 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพครอบครัวละ 11,400 บาท ด้านการเกษตร (พืช ประมง ปศุสัตว์ และการเกษตรอื่น) เช่น ค่าชดเชยพืชตายหรือเสียหาย ข้าวไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้น 4,048 บาท เป็นต้น ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้เร่งประสานจังหวัดเชียงรายสำรวจความเสียหาย และเร่งรัดช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประสบภัยตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หากงบประมาณในการช่วยเหลือไม่เพียงพอ จังหวัดสามารถขอขยายวงเงินไปยังกรมบัญชีกลางได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 68)