
วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 49 อนุมัติการเปิดอภิปรายร่างกฎหมายการใช้จ่ายของรัฐบาลและการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้ผ่านความเห็นชอบต่อสภาคองเกรสก่อนช่วงวันหยุดในวันที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีความยาว 940 หน้าได้รับการสนับสนุนด้วยคะแนนอย่างฉิวเฉียดในวุฒิสภาซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน ในช่วงค่ำของวันเสาร์ (26 มิ.ย.) ซึ่งจะเปิดทางไปสู่การอภิปรายอย่างเป็นทางการเพื่อผลักดันให้มีการเริ่มต้นใช้มาตรการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลฉบับปี 2560 อย่างถาวร อีกทั้งเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารและความมั่นคงชายแดน และลดเงินทุนสนับสนุนโครงการสวัสดิการสังคมสำคัญ
ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการสานต่อกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานสำคัญของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวหาพรรครีพับลิกันว่าเร่งรีบกระบวนการ และยืนยันว่าร่างกฎหมายทั้งหมดต้องได้รับการอ่านออกเสียงในห้องประชุมวุฒิสภาก่อนที่การอภิปรายจะเริ่มขึ้น เมื่อร่างกฎหมายได้รับการอ่านแล้ว สมาชิกวุฒิสภาจะเริ่มการอภิปรายร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเวลา 20 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงครั้งสุดท้ายเพื่อผ่านร่างกฎหมาย
ร่างกฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติอย่างเฉียดฉิวด้วยคะแนนเสียง 215 ต่อ 214 ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. โดยหากวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ ร่างกฎหมายจะต้องส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ผ่านการพิจารณาครั้งสุดท้าย ก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะสามารถลงนามให้บับคับเป็นกฎหมายได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 68)