
มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะปรับตัวลงแตะระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงต้นปีหน้า โดยถูกกดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาด และจากการที่สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเริ่มคลี่คลายลง
มอร์แกน สแตนลีย์ระบุในรายงานล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ว่า การผลิตจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก อาจเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงปี 2568-2569 ซึ่งเพียงพอที่จะรับมือกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
กลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนส.ค.จำนวน 411,000 บาร์เรล/วันในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 6 ก.ค.นี้ หลังจากที่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในปริมาณดังกล่าวในเดือนพ.ค., มิ.ย. และก.ค.
ทั้งนี้ หากที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต ก็จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันโดยรวมจากกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มขึ้น 1.78 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1.5% ของอุปสงค์น้ำมันโดยรวมทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันจันทร์ (30 มิ.ย.) หลังจากความเสี่ยงด้านอุปทานในตะวันออกกลางลดน้อยลง ภายหลังจากอิหร่านและอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยก่อนหน้านี้สงคราม 12 วันที่เริ่มต้นขึ้นเมื่ออิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในวันที่ 13 มิ.ย.ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงกว่าระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)