
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเสนอแนะในวันนี้ (1 ก.ค.) ว่า กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่อีลอน มัสก์ เคยเป็นหัวเรือใหญ่ ควรเข้าไปตรวจสอบเงินอุดหนุนที่บริษัทต่าง ๆ ของมัสก์เองเคยได้รับ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของรัฐบาลกลางเป็นเงินจำนวน “มหาศาล”
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเทสลา (Tesla) และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายขนานใหญ่ของทรัมป์อีกครั้ง พร้อมประกาศว่าจะรณรงค์เพื่อโค่นล้มสส.ทุกคนที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ทั้งที่เคยหาเสียงว่าจะจำกัดการใช้จ่ายของภาครัฐ
ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทรูธโซเชียล (Truth Social) ของตนเองว่า “อีลอนอาจจะเป็นคนที่ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และหากไม่มีเงินอุดหนุนเหล่านี้ อีลอนก็คงต้องปิดบริษัทแล้วกลับบ้านที่แอฟริกาใต้ไปแล้ว จะไม่มีอีกแล้วทั้งการปล่อยจรวด ดาวเทียม หรือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และประเทศของเราก็จะประหยัดเงินได้เป็นกอบเป็นกำ บางทีเราน่าจะให้หน่วยงาน DOGE เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที มีเงินมหาศาลให้ประหยัดได้!!!”
ในเวลาต่อมา มัสก์ได้ตอบโต้ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ของตนเองว่า “ผมหมายความตามตรงเลยว่า ‘ตัดงบให้หมด’ เดี๋ยวนี้เลย”
ความขัดแย้งนี้ปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มัสก์เงียบหายไปหลายสัปดาห์ โดยเขากลับเข้าร่วมวงถกเถียงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ขณะที่วุฒิสภากำลังพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมัสก์เรียกว่า “บ้าคลั่งและทำลายล้างอย่างที่สุด” ต่อมาในวันจันทร์ (30 มิ.ย.) เขาได้ยกระดับการวิจารณ์ โดยกล่าวว่า สส. ที่เคยหาเสียงว่าจะลดการใช้จ่ายแต่กลับสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ “ควรจะละอายใจตัวเอง!”
“และพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งขั้นต้นปีหน้า แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำในชีวิตนี้ก็ตาม” มัสก์กล่าว
มัสก์ยังได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยให้เหตุผลว่าการใช้จ่ายมหาศาลในร่างกฎหมายนี้บ่งชี้ว่า “เราอยู่ในประเทศที่มีพรรคเดียว นั่นคือ พรรคหมูตะกละ!!” (PORKY PIG PARTY!!) ซึ่งเป็นคำที่เขาใช้เหน็บแนมถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างสิ้นเปลือง
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีพรรคการเมืองใหม่ที่ใส่ใจประชาชนอย่างแท้จริง” มัสก์ระบุ
การวิพากษ์วิจารณ์ของมัสก์ได้สร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีผู้นี้เคยทุ่มเงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์ และยังเป็นผู้นำกระทรวง DOGE ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของรัฐบาลกลางเพื่อลดค่าใช้จ่ายภาครัฐอีกด้วย
มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวจะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก และลบล้างความสำเร็จในการประหยัดงบประมาณที่เขาทำไว้ผ่านหน่วยงาน DOGE
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามัสก์จะมีอิทธิพลต่อสภาคองเกรสมากน้อยเพียงใด แต่พรรครีพับลิกันได้แสดงความกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างเขากับทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการรักษาเสียงข้างมากในการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2569
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)