
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคประชาชน ในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ วันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) ว่า พรรคประชาชน ยืนยันความพร้อมที่จะใช้กลไกของสภาฯ ในทุกช่องทาง เพื่อหาทางออกให้กับประเทศเป็นการปลดล็อกทางการเมือง มากกว่าเพียงแค่ปลดล็อกเรื่องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ภายใต้สมการทางการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากกระบวนใดก็ตาม ทั้งการลาออก หรือถอดถอน เพราะเชื่อว่าไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ แต่เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม มีประสิทธิภาพ และสมาธิในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้น จะมีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน
ส่วนกระแสข่าวที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวนั้น นายณัฐพงษ์ ไม่ขอแสดงความเห็นในส่วนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอด พร้อมย้ำว่าขณะนี้การเมืองไทยยังไม่ได้มาถึงทางตัน
“เราไม่ได้มองว่าการเมืองจะถึงทางตัน เพราะการเดินเข้าสู่ทางตัน มีกรณีเดียว คือ กลุ่มคนบางกลุ่มพยายามสร้างเงื่อนไข สร้างสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อใช้อำนาจนอกระบบ ไม่ว่าการปฏิวัติรัฐประหาร หรือนายกรัฐมนตรีที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว
ทั้งนี้ หากมีการเสนอชื่อนายอนุทิน พรรคประชาชนจะโหวตให้ โดยไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ขอยังไม่ลงรายละเอียด เพราะไม่อยากยืนยันในตอนนี้ เพราะที่ผ่านมา ในการคุยนอกรอบหรือไม่เป็นทางการ ยังมีตัวเลือกความเป็นไปได้อื่น ๆ อีก
“ยังพูดฝ่ายเดียวไม่ได้ สุดท้ายอีกฝั่งหนึ่ง หรือทางพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทินเอง ก็ต้องเห็นด้วยกับเรา ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์แบบไหน การตัดสินใจของพรรคประชาชน เราจะใช้จำนวนเสียง สส.ที่มีทั้งหมด เปิดประตูหาทางออกให้กับประเทศนี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว
- ประเมิน 3 ฉากทัศน์ ก่อนศาลฯ วินิจฉัย “แพทองธาร”
นายณัฐพงษ์ มองว่า ฉากทัศน์แรก หาก น.ส.แพทองธาร ไม่ยอมลาออกจากนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ก็ยังเป็นแบบนี้ มีนายกรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง
ฉากทัศน์ที่สอง นายกรัฐมนตรี สามารถตัดสินใจลาออกได้เลย เพื่อเดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ฉากทัศน์ที่สาม การยุบสภา ซึ่งขึ้นกับรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจ
“การยุบสภา เป็นแนวทางที่พรรคประชาชนเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าอยากให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งก็อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร เรายืนยันว่า รักษาการนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการยุบสภา” นายณัฐพงษ์ ระบุ
ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่า การที่พรรคประชาชนเลือกแนวทาง “ยุบสภา” เป็นเพราะพรรคประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า น้อมรับในข้อคิดเห็นของแต่ละฝ่าย แต่ขอชวนประชาชนทุกคนคิด และมีการตั้งคำถามในใจว่า หากเราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน มีความชอบธรรม มีหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไม่ได้มาจากการแบ่งสร้างสรรเก้าอี้ตามโควตาพรรคการเมือง เพื่อรักษาอำนาจตัวเอง อยากให้ ครม.คัดสรรคนที่มีความรู้ ความสามารถมาดำรงตำแหน่ง ถ้าเราอยากได้แบบนี้ เราลองดูทางเลือกอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่มีอยู่
“ลองจินตนาการดูว่ามีแบบไหนบ้าง ที่เราจะได้รัฐบาลตามที่พรรคประชาชนเสนอได้ เชื่อว่า ประชาชนทุกคนเห็นตรงกันว่า ทางออกคือการคืนอำนาจให้กับประชาชน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
- พร้อมใช้ทุกกลไกในสภาฯ ตรวจสอบรัฐบาล
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า พรรคประชาชนจะใช้กลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสภา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถามสด การยื่นญัตติด่วนต่าง ๆ รวมถึงการใช้กลไกกรรมาธิการ ในการทำหน้าที่ต่อไป ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 พรรคประชาชนไม่ได้ปฏิเสธ และเห็นด้วยว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกดดันรัฐบาลให้มีการยุบสภา หรือการตรวจสอบรัฐบาล แต่จะยื่นอย่างไรให้เข้าเป้ามากที่สุด ก็เป็นเรื่องที่ต้องประเมินสถานการณ์กันต่อไป
ทั้งนี้ การที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ตอกย้ำให้เห็นว่า สิ่งที่พรรคประชาชนสื่อสารมาก่อนหน้านี้ ในการไม่ออกไปรับลูกข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย ในการยื่นญัตติอภิปรายตามมาตรา 151 เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสิ่งที่เราตัดสินใจถูกต้องแล้ว
- ชวนร่วมปฏิเสธการใช้อำนาจนอกระบบ เพื่อล้มรัฐบาล
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นจากที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล และอยากให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งว่า การออกจากตำแหน่งนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าประชาชนจะมีความไม่พอใจต่อ น.ส.แพทองธาร อย่างไร ก็ไม่ควรเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญ หรือกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
“ผู้ชุมนุมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่เมื่อไรก็ตาม ที่รู้สึกว่าแกนนำมีส่วนชี้นำที่จะนำไปสู่กลไกนอกระบบ ทั้งรัฐประหาร และนายกรัฐมนตรี มาตรา 5 เราก็ไม่ควรสนับสนุนกระบวนการนั้น” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว
พร้อมยืนยันว่า ผู้ที่จะตัดสินความผิดตามจริยธรรมของนักการเมือง ควรจะเป็นประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง เพราะนักการเมืองมีความรับผิดรับชอบต่อประชาชน ไม่ควรอาศัยกลไกนี้ เพียงเพื่อหวังผลในการทุบทำลายหรือถอดถอนใครออกจากตำแหน่ง โดยการยื่นดาบไปให้กับตุลาการที่มีองค์คณะแค่ไม่กี่คน ทั้งที่เรื่องนี้ควรเป็นการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า
ส่วนกรณีมีผู้ที่เตรียมยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ออกจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ด้วยนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องประเมินสถานการณ์ตามความเหมาะสม ตอนนี้ น.ส.แพทองธาร กำลังจะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งหากมีการดำเนินการแล้วเห็นถึงความไม่เหมาะสม พรรคประชาชนก็พร้อมใช้ทุกกลไกในการตรวจสอบ และถอดถอนออกจากตำแหน่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)