หุ้นไทยแนวโน้มตลาดเช้าซึมตัวหลังเจรจาไทย-สหรัฐไร้ข้อสรุปแถมโดนสกัดชิป AI,ตลท.เริ่มเกณฑ์คุม HFT

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวหลังเจรจาการค้าไทย-สหรัฐไร้ข้อสรุป และสหรัฐจ่อคุมส่งออกชิป AI ให้ไทย-มาเลเซียป้องกันเป็นทางผ่านไปจีน ขณะที่วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มใช้เกณฑ์คุม HFT เฉพาะ SET100 อาจทำให้วอลุ่มหด รวมถึงแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองไทยไม่นิ่ง แนะติดตามตัวเงินเฟ้อไทย และสหรัฐประกาศรายชื่อประเทศที่อาจถูกเก็บภาษีตอบโต้ตั้งแต่ 1 ส.ค.สูงถึง 70% พร้อมให้แนวรับ 1,100-1,110 จุด แนวต้าน 1,130 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดซึมตัวลง หลังการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปช่วงใกล้ถึงเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.แล้ว รวมถึงปัจจัยเฉพาะตัวเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกกฎควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการใช้ทั้งสองประเทศเป็นทางผ่านไปจีน ทำให้ sentiment ในประเทศไม่ค่อยดี

ขณะที่วันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เริ่มใช้มาตรการกำหนดให้กลุ่ม High Frequency Trading (HFT) ทำได้เฉพาะหุ้นใน SET100 อาจทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงราว 2-3% และยังมีปัจจัยกดดันบางส่วนจากการเมืองไทยไม่นิ่ง แม้จะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ แต่หลายประเด็นต่าง ๆ ยังไม่แน่นอน อาทิ ข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา หรือการพิจารณาคดีอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น

แนวโน้มวันนี้ ติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ของไทย รวมทั้งรายชื่อประเทศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งจดหมายไปแจ้งการเก็บภาษีตอบโต้วันที่ 1 ส.ค. โดยอาจจะมีอัตราสูงถึง 70%

โดยให้กรอบแนวรับ 1,100-1,110 จุด และแนวต้าน 1,130 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 ก.ค.) ปิดทำการในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ และตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายตามปกติในวันนี้ (7 ก.ค.)

– ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,729.56 จุด ลดลง 81.32 จุด หรือ -0.20%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 23,828.85 จุด ลดลง 87.21 จุด หรือ -0.36% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,467.98 จุด ลดลง 4.34 จุด หรือ -0.12%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ค.) 1,119.94 จุด ลดลง 7.27 จุด (-0.64%) มูลค่าซื้อขาย 27,794.63 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (4 ก.ค.) 2,354.40 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (7 ก.ค.) ลดลง ลดลง 91 เซนต์ หรือ -1.36% แตะที่ระดับ 66.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ค.) อยู่ที่ 5.08 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.44 อ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด หนุนดอลลาร์แข็งค่า

– รมว.คลัง เผยยังเจรจาภาษีทรัมป์ไม่เสร็จ รอลุ้นอัตราภาษีตอบโต้สุดท้ายจะอยู่ที่ระดับไหน ปัดมะกันเคาะเก็บภาษีไทย

18-36% ส่งข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. สศช.เชื่อทันเดดไลน์ คาดไทยโดนมะกันเก็บ 18% ส.อ.ท.หวังเจอโมเดลเหมือนเวียดนาม ห่วงเกษตรกร 20 ล้านคน

– เอกชนนอนมือก่ายหน้าผาก ยอมรับกังวลหนักปมเจรจาภาษีทรัมป์ไม่จบ เปรียบเหมือนลุ้นหวยทุกวัน ห่วงเกษตรกร-คนเลี้ยงหมู-วัว 20 ล้านคนกระทบอ่วม หากไทยยกเลิกไม่เก็บภาษีแนวทางเดียวกับเวียดนาม มีแค่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ทั้งการนำวัตถุดิบราคาถูกจากสหรัฐเข้ามาแปรรูป จะทำให้อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ได้ต้นทุนดีขึ้นกำไรมากขึ้นส่งออกได้มากขึ้น แย้ม หากเจรจาล้มเหลว ไทยโดนรีดภาษีอัตราเต็ม 36% คาดส่งผลให้การส่งออกของไทยติดลบถึง 2% จีดีพีอาจลดลงต่ำกว่า 1% จี้ เร่งหาตลาดใหม่สำรอง

– ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ลั่นทำการบ้านเพิ่ม หาทางจัดการเม็ดเงิน LTF แสนล้าน ที่ค้างอยู่ หลัง ThaiESGX ดูดได้เล็ก

น้อย ตั้งเป้าเงินต้องอยู่ในตลาดทุนไทย เดินหน้าทำให้สินค้าตลาดทุนน่าสนใจ ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ชี้ต้องดึงเชื่อมั่น ผนึกคลัง ตั้งทีมสื่อสารเรื่องดีตลาดทุนไทย

– จับสัญญาณ “จีนเที่ยวไทย” หลังครึ่งปีแรกร่วง 34% “แอตต้า” ทำใจปี 68 ได้แค่ 5 ล้านคน ฝ่าปัจจัยลบรอบด้านครึ่งหลัง ออกแรงหนัก ดึงเพิ่มอีกอย่างน้อย 2.74 ล้านคนประคองกระแสการเดินทาง ชี้ลดพึ่งพาตลาดจีนทำได้ยาก เตรียมโรดโชว์ 3 เมืองขยายตลาด “ททท.” เร่งอัดฉีดงบ หนุนชาร์เตอร์ไฟลต์ แคมเปญสร้างภาพลักษณ์เชื่อมั่นความปลอดภัย

– ครม.ชุดใหม่ มีมติมอบให้ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง “สุริยะ” รองนายกฯ เบอร์สอง ตามด้วย พีระพันธุ์

พิชัย และ ประเสริฐ ตามลำดับ โดยนายภูมิธรรมมีอำนาจเต็มเท่ากับนายกรัฐมนตรี อันดับ 2-5 จะสั่งการอนุมัติเงินงบฯ ต้องขอ ครม “มท.อ้วน” ขอใช้ความกล้าหาญสางปมที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ จ่อจัดทัพขุนพลมหาดไทยให้เหมาะสมกับงาน ตั้งเป้าปราบยาเสพติดเป็นอันดับแรก ส่อหมันเรือดำน้ำเหตุเปลี่ยน ครม.ต้องส่งเรื่องกลับกลาโหมโยน รมต.ใหม่พิจารณา

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– MOSHI (ฟินันเซีย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 55 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/68 ที่ 194 ลบ. +25% q-q, +139% y-y หนุนจาก SSSG ที่ +15% y-y แข็งแกร่งสวนกลุ่มค้าปลีก แม้จะมาจากฐานต่ำปีก่อนที่มีปัญหาขาดแคลนสต็อก แต่หากหักปัญหาออก SSSG จะยังโต +9% y-y เป็นผลจากการออกสินค้าใหม่เดือนละ 1,000 SKU มากกว่าปกติเท่าตัว รวมถึงทำตลาดคอลแลปส์แบรนด์ดัง แม้เศรษฐกิจไทยซบเซาและคู่แข่งขยายสาขาต่อเนื่อง แต่ตลาดค้าปลีกสินค้า Lifestyle ยังแข็งแกร่ง คงคาดกำไรสุทธิปีนี้ +26% y-y

– TRUE (พาย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 13.16 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกหลัง กสทช.รับรองผลการประมูลคลื่นความถี่ 4 ย่าน ได้แก่ 850MHz, 1500MHz, 2100MHz และ 2300MHz ผลประมูลในภาพรวมเป็นบวก การแข่งขันไม่ได้รุนแรงเท่าที่คาด TRUE ชนะคลื่น 2300MHz ราคาต่ำกว่าที่เราคาดถึง 37% อีกทั้งมีการประมูล 1500MHz เหนือความคาดหมาย หนุนให้ TRUE ได้คลื่นเพิ่มมากถึง 90MHz ทำให้ถือคลื่น mid-band รวมสูงถึง 280MHz จะส่งผลบวกกับคุณภาพการให้บริการ และความสามารถในการแข่งขันในช่วงหลายปีข้างหน้า จนกว่าคลื่น 3500MHz จะเปิดให้ใช้งานในช่วงปี 72-74

– STNEX (แลนด์ แอนด์ เฮาส์) ราคาเป้าหมาย 13.12 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY ตามการเติบโตของยอดขาย และยังสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และได้ประโยชน์จากการอัพเกรด AI PC และยอดขาย Nintendo Switch 2 ซึ่งได้กระแสตอบรับดีกว่าคาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 68)