“อมรเทพ” ชี้ภาษีทรัมป์ฟาดศก.ไทยปีนี้ เสี่ยงโตไม่ถึง 1.8% แนะปรับนโยบายเชิงรุก แทนถอยสุดซอย

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงรุนแรงจากภาษีสหรัฐฯ จากกรณีปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% ส่งผลให้ไทยเสียเปรียบเวียดนาม ที่ถูกเก็บภาษีเพียง 20% โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 ลงต่ำกว่า 1.8% ที่เราคาด

โดยภาคส่งออกและการผลิต จะได้รับผลกระทบโดยตรง สำหรับสินค้าหลักที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชิ้นส่วนโทรศัพท์ HDD หม้อแปลงไฟฟ้า และเครื่องพิมพ์ ซึ่งอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า เช่น เวียดนาม แต่ยังมีสินค้าอื่นที่แม้โดนภาษีสูง แต่ไทยยังพอแข่งขันได้ เช่น ยางรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อาหารสัตว์และข้าว

ขณะที่ยังมีผลกระทบให้การนำเข้า และการลงทุนชะลอตัว เนื่องจากความไม่แน่นอน ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบลดลง กระทบต่อโลจิสติกส์และคลังสินค้า ขณะที่ FDI อาจย้ายไปประเทศอื่นในอาเซียน ส่งผลต่อการเติบโตระยะยาวของไทย

  • ไม่จำเป็นต้อง “ถอยสุดซอย” แบบเวียดนาม

นายอมรเทพ เห็นว่า ไทยต้องเร่งปรับนโยบายเชิงรุก ควรเน้นการส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มในประเทศ ลดอุปสรรคการลงทุน และเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมียุทธศาสตร์ พร้อมเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งลดการผูกขาดในประเทศ ขณะเดียวกัน เราต้องลดการส่งออกศูนย์เหรียญ หรือเป็นทางผ่านที่ไทยได้ประโยชน์น้อย

พร้อมมองว่า ไม่จำเป็นที่ไทยต้องยอมสหรัฐฯ ทุกอย่าง ขณะเดียวกัน ไทยต้องเร่งหาตลาดใหม่ที่กระทบน้อย เช่น ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และยุโรป รวมถึงการเร่งเจรจา FTA กับยุโรป และความตกลงแบบครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CPTPP) รวมทั้งหาทางเร่งตลาดจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยใช้อาเซียนเป็นที่พึ่งในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

“ผมไม่เชื่อว่าไทยต้องทำแบบเวียดนามที่ลดภาษี 0% ผมเชื่อในการเจรจาระยะยาว แม้ไม่ใช่ดีลที่ดีที่สุด ไม่ถูกใจทุกคน แต่ยังเปิดประตูการต่อรองได้ และผมเชื่อในการปรับตัวของผู้ประกอบการ” นายอมรเทพ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)