ทองคำยังแรงไม่หยุด! ตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงตอนนี้ราคาทองคำในประเทศพุ่งไม่ยั้งขึ้นมาแล้วกว่า 50% ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 54,800 บาท เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 จากระดับราคาเปิดศักราชอยู่ที่ 42,550 บาทในวันที่ 2 มกราคม 2568 แม้จะมีช่วงย่อตัวลงบ้างในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่เดือนกรกฎาคมก็กลับมาบวกอีก 500 บาท ส่วนราคาทองคำโลกก็ทำนิวไฮที่ 3,500.33 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์เช่นกัน!
ทำไมทองถึงพุ่งไม่หยุด? นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ปัจจัยหลักคือ นโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้เกิด “สงครามการค้าทั่วโลก” ทำให้เศรษฐกิจโลกผันผวน ทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” จึงเป็นทางเลือกที่นักลงทุนทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางหลายประเทศแห่กันเข้าเก็บเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น
อนาคตทองคำครึ่งปีหลัง! นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า แม้สถานการณ์อิสราเอล-อิหร่านจะสงบลงชั่วคราว แต่ “สงครามการค้า” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เลื่อนเส้นตายการเรียกเก็บภาษีไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทำให้ราคาทองคำยังคงผันผวน แต่ทิศทางระยะยาวยังเป็น “ขาขึ้น” ชัดเจน
โอกาสทองนักลงทุน! นายจิตติ คาดว่า ราคาทองคำโลกมีโอกาสพุ่งไปถึง 3,800 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ในปลายปีนี้ หรือคิดเป็นทองคำไทยสูงถึง 58,000 บาท (หากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32-33 บาท/ดอลลาร์) ดังนั้น หากราคาทองคำย่อตัวลงมา เป็นจังหวะที่ดีในการทยอยเก็บสะสม โดยเน้นการใช้ “เงินเย็น” เพราะการลงทุนทองคำระยะยาวย่อมชนะเงินเฟ้อ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% เลยทีเดียว!
แล้วคุณล่ะ คิดว่าราคาทองคำจะไปถึง 58,000 บาทได้จริงหรือไม่?
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)
