เวียดนามไม่หวั่นกำแพงภาษี 20% ประกาศเร่งขยายตลาดส่งออกใหม่ ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

ฟาน ถิ ทั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ประกาศในวันนี้ (9 ก.ค.) ว่า เวียดนามจะพลิกวิกฤตจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ให้เป็นโอกาสในการยกระดับคุณภาพสินค้า และเร่งขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เวียดนามต้องเผชิญกับข้อตกลงที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำหนดให้มีการเรียกเก็บภาษี 20% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนาม และเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 40% หากเป็นสินค้าที่ถูกส่งผ่านจากประเทศที่สาม

“ปัจจุบันเวียดนามมีข้อตกลงการค้าเสรีถึง 16 ฉบับ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถขยายตลาดส่งออกและลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ลงได้” ฟาน ถิ ทั้ง กล่าวในงานประชุมด้านการลงทุนที่กรุงฮานอย พร้อมระบุว่า กระทรวงฯ กำลังประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อดำเนินมาตรการดังกล่าว

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสที่ 2/2568 ขยายตัวถึง 7.96% เพิ่มขึ้นจาก 6.93% ในไตรมาสแรก

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตตลอดทั้งปีที่รัฐบาลตั้งไว้ที่อย่างน้อย 8% ซึ่งนายกรัฐมนตรีฝั่ม มิญ จิ๊ญ ได้ออกมายอมรับว่า การบรรลุเป้าหมายนี้ถือเป็น “ความท้าทายอย่างยิ่ง”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)