เมียนมาวอนทรัมป์ช่วยลดภาษี หลังถูกรีดหนัก 40%

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา (ภาพ: Thaigov.go.th)

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเมียนมาซึ่งถูกกำหนดไว้สูงถึง 40% และแสดงความพร้อมที่จะส่งคณะผู้แทนไปยังสหรัฐฯ หากมีความจำเป็น

สื่อของรัฐบาลทหารเมียนมารายงานในวันนี้ (11 ก.ค.) ว่า หลังได้รับจดหมายแจ้งอัตราภาษีศุลกากรจากปธน.ทรัมป์ ทางพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ขอให้สหรัฐฯ ลดอัตราภาษีลงสู่ระดับ 10%-20% แลกกับการที่เมียนมาจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ 0%-10%

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 ก.ค.) ปธน.ทรัมป์ได้ส่งจดหมายถึง 14 ประเทศเพื่อแจ้งอัตราภาษีศุลกากรใหม่ โดยเรียกเก็บจากไทย 36%, ลาว 40%, เมียนมา 40%, กัมพูชา 36%, บังกลาเทศ 35%, เซอร์เบีย 35%, อินโดนีเซีย 32%, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 30%, แอฟริกาใต้ 30%, ญี่ปุ่น 25%, คาซัคสถาน 25%, มาเลเซีย 25%, เกาหลีใต้ 25% และตูนิเซีย 25%

ต่อมาในวันพุธ (9 ก.ค.) ปธน.ทรัมป์ได้ส่งจดหมายถึง 8 ประเทศ โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากร 30% จากแอลจีเรีย อิรัก ลิเบีย และศรีลังกา, 25% จากบรูไนและมอลโดวา, 20% จากฟิลิปปินส์ และ 50% จากบราซิล โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันพุธว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% ที่เขาประกาศไว้เมื่อวันก่อนนั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. เช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)