ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 30% กับ EU และเม็กซิโก เริ่ม 1 ส.ค.นี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

ทรัมป์ได้เปิดเผยอัตราภาษีใหม่นี้ผ่านจดหมายที่ส่งถึงเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ซึ่งเขาได้โพสต์จดหมายทั้งสองฉบับบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันเสาร์ (12 ก.ค.)

ในจดหมายถึงผู้นำเม็กซิโก ทรัมป์ยอมรับว่าเม็กซิโกให้ความช่วยเหลือในการสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ แต่ระบุว่าเม็กซิโกยังทำไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งไม่ให้อเมริกาเหนือกลายเป็น “แหล่งซ่องสุมการค้ายาเสพติด”

ส่วนในจดหมายถึงสหภาพยุโรป ทรัมป์ระบุตอนหนึ่งว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ต่อ EU ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ

ก่อนหน้านี้ EU พยายามที่จะบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูง โดยทั้งสองฝ่ายเพิ่งส่งสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจา หลังจากที่ทรัมป์ได้ถอนคำขู่ที่จะเก็บภาษี 50% กับกลุ่มประเทศ EU

ทั้งนี้ EU และเม็กซิโกนับเป็นสองคู่ค้ารายล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ทรัมป์ได้ส่งจดหมายแจ้งการเก็บภาษีในอัตราใหม่ หลังจากที่เขาได้ส่งจดหมายลักษณะเดียวกันไปยังคู่ค้าของสหรัฐฯ อีก 23 ประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแคนาดา ญี่ปุ่น บราซิล และไทย โดยกำหนดอัตราภาษีตั้งแต่ 20% ถึง 50%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 68)