
เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า จีนและสหรัฐฯ กำลังเร่งความพยายามในการปฏิบัติตามกรอบการทำงานซึ่งทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันในระหว่างการเจรจาเศรษฐกิจและการค้าที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือนมิ.ย.
หวัง หลิงจวิน รองหัวหน้า GAC เปิดเผยในการแถลงข่าวว่า การค้าระหว่างทั้งสองชาติฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 3.50 แสนล้านหยวน (ราว 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์) หลังจากที่การหารือเศรษฐกิจและการค้าในลอนดอน รวมถึงครั้งก่อนหน้านั้นที่เจนีวา เป็นไปในเชิงบวก
หวังระบุว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ย่อมเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว และยังสะท้อนถึงกระแสโลกาภิวัตน์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ความจำเป็นในการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้ลึกยิ่งขึ้น ตลอดจนบ่งชี้ถึงความต้องการการร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศ และการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองชาติ
หวังชี้ว่า ฉันทามติที่ทั้งสองชาติบรรลุร่วมกันที่เจนีวา และกรอบการทำงานที่ตกลงกันที่กรุงลอนดอน ถือเป็น “ชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก” และจีนหวังว่าสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับจีนเพื่อทำให้ความร่วมมือนี้เป็นธีมหลักของความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจทวิภาคี ขับเคลื่อนระบบการค้าโลกกลับสู่เส้นทางที่ยุติธรรมและเปิดกว้างอีกครั้ง และมีส่วนสนับสนุนการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีนว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ของจีนปรับตัวขึ้น 5.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากภาคธุรกิจของจีนยังคงเร่งส่งออกสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเว้นภาษีศุลกากรชั่วคราว ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในเดือนส.ค. ส่วนการนำเข้าในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 68)