
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร (UK) ทรุดตัวลงอย่างหนักในไตรมาสที่สองของปีนี้ นับเป็นการร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญครั้งแรกในรอบเกือบสามปี โดยมีสาเหตุสำคัญจากความกังวลเรื่องความมั่นคงในหน้าที่การงาน ท่ามกลางปัญหาว่างงานที่สูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ
รายงานผลสำรวจของบริษัทดีลอยท์ (Deloitte) ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (21 ก.ค.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง 2.6 จุดเปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 10.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2567 และเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ UK ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในระดับเลขสองหลักและความปั่นป่วนในตลาดการเงินจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลลิซ ทรัสส์
ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคของดีลอยท์ เปิดเผยว่า ความกังวลเรื่องตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ทำให้ผู้บริโภคเป็นห่วงความมั่นคงในหน้าที่การงานและแนวโน้มการเติบโตของรายได้
ผลสำรวจของดีลอยท์สอดคล้องกับข้อมูลทางการของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งชี้ว่าอัตราการว่างงานของ UK ในช่วงสามเดือนสิ้นสุดเดือนพ.ค. ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 4.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2564 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิ.ย. ไต่ระดับขึ้นไปที่ 3.6%
ด้านผู้ประกอบการให้เหตุผลว่า ภาษีการจ้างงานและค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น ทำให้ลังเลที่จะจ้างพนักงานใหม่
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของดีลอยท์สวนทางกับข้อมูลของบริษัท GfK ซึ่งสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน โดยผลสำรวจของ GfK กลับชี้ว่าความเชื่อมั่นปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปีก่อน
อนึ่ง การสำรวจของดีลอยท์จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย. โดยเก็บข้อมูลจากผู้บริโภค 3,200 คน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 68)