
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (25 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-สหภาพยุโรป ซึ่งลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 37.90 ดอลลาร์ หรือ -1.12% ปิดที่ 3,335.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ทองคำแท่งมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศ
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การทำข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น และความหวังว่าจะมีข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-สหภาพยุโรปก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นั้น ได้ลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น
หลังจากมีข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ใกล้จะบรรลุแล้ว แม้ว่าสมาชิกสหภาพยุโรปอนุมัติให้ใช้มาตรการตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรกับสินค้าสหรัฐฯ หากการเจรจาล้มเหลวก็ตาม
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงมีเสถียรภาพ แม้อัตราการจ้างงานจะขยายตัวช้า
ข้อมูลตลาดแรงงานที่มีเสถียรภาพคาดว่าจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%-4.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า (29-30 ก.ค.) แม้อัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณเร่งตัวจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ได้เดินทางไปยังเฟดโดยไม่คาดหมายเพื่อกดดัน เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดอีกครั้ง โดยเรียกร้องให้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างมาก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองคำอาจได้รับแรงซื้อบริเวณ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่คงไม่ทำสถิติสูงสุดใหม่จนกว่าการตัดสินใจของเฟดจะเสร็จสิ้น และการประชุมอาจส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
ทองคำมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน และในสภาพแวดล้อมที่ดอกเบี้ยต่ำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 68)