ไทย-กัมพูชา:นานาชาติเข้าใจไทยโต้กลับใช้ F-16 จำกัดวงพื้นที่ทหารหลังเขมรเปิดฉากถล่มพลเรือนไทย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฎิบัติการข้อมูลข่าวสาร ได้สรุปความคิดเห็นของนักวิชาการ สื่อมวลชน ทั้งในและต่างประเทศ ต่างแสดงความเข้าใจที่ประเทศไทยดำเนินการทางยุทธวิธี ในกฎการปะทะ โดยปฎิบัติจำกัดวงของภารกิจเฉพาะพื้นที่กำลังทางทหารของกัมพูชาซึ่งเป็นการปฎิบัติ ต่อต้านการรุกราน รักษาอธิปไตยดินแดนไทย และ ยืนยันการใช้ F-16 ตอบโต้กัมพูชาเมื่อวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 สอดคล้องกับสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ หลังจากกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนัก และยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่บ้านเรือนและพื้นที่ของพลเรือนไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้มีการระบุว่าศักยภาพ F-16 เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อพื้นที่พลเรือน ขณะที่กัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ที่นำมาใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมาย

ล่าสุด สื่อต่างประเทศ เช่น CNA ของสิงคโปร์ ได้สัมภาษณ์นักวิชาการด้านความมั่นคงจากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งยืนยันว่าการตอบโต้ของปองทัพไทยมีความแม่นยำและจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นต้นตอของการโจมตี โดยไม่กระทบพื้นที่พลเรือน พร้อมชี้ว่าใช้ยุทธวิธีได้อย่างเหมาะสมในบริบทของความขัดแย้งชายแดน ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศไทยนั้น ได้ใช้ F-16 พร้อมอาวุธนำวิถีแม่นยำ เข้าโจมตีฐานยิงจรวดและค่ายทหารของกัมพูชา โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่พลเรือนทั้งหมด

นายจิรายุ ยังเปิดเผยว่า กระแส ความคิดเห็นจากประชาชนหลากหลายชาติ รวมถึงนักวิชาการ สื่อและอินฟูเอนเซอร์ต่างประเทศชั้นนำ มีการวิเคราะห์ นำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการ รวมทั้งความคิดเห็น ทำนองเดียวกัน ว่า ไทยตอบโต้หลังกัมพูชาที่ได้ละเมิดอธิปไตยและโจมตีประชาชนไทยก่อน โดยเฉพาะพื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ขณะที่กัมพูชา ยังมีการใช้ภาพ AI ปล่อยข่าวปลอม เช่น สอย F 16 ของไทย หลอกลวงคนของตัวเองไปวันๆ

“ขอขอบคุณคนไทยทุกสาขาอาชีพ พลเรือนจากมิตรประเทศ เหล่า Influencers นักวิชาการ ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ช่วยกันออกมาโพสต์ ทำคลิปวิดิโอ ให้ข้อมูลเชิงวิชาการ เผยแพร่ข้อเท็จจริงในโลกออนไลน์ ทำความจริงให้ปรากฏในสายตาชาวโลกว่า “ประเทศไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” นายจิรายุกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 68)