
บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ได้ออกมาปฏิเสธความวิตกกังวลที่ว่า ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น H20 ของบริษัทมี “ช่องโหว่ (backdoors)” ที่จะทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงหรือควบคุมชิปได้ หลังจากสำนักบริหารไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน (CAC) ได้เรียกเจ้าหน้าที่ของอินวิเดียเข้าชี้แจงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับชิป H20
แม้อินวิเดียได้รับคำยืนยันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าทางบริษัทจะได้รับอนุญาตให้กลับมาส่งออกชิปประมวลผลรุ่น H20 ที่ผลิตขึ้นเพื่อป้อนตลาดจีนได้ แต่ชิป AI รุ่นดังกล่าวได้ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นจากรัฐบาลจีน
รายงานระบุว่า CAC ได้เรียกเจ้าหน้าที่ของอินวิเดียเข้าชี้แจงว่า ชิป AI รุ่น H20 ที่อินวิเดียจำหน่ายให้กับจีนนั้น มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงหรือไม่ โดย CAC ได้ขอให้อินวิเดียชี้แจงและยื่นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ เพื่อปกป้องความปลอดภัยด้านไซเบอร์สเปซและข้อมูลของผู้ใช้งานชาวจีน หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ ชิป AI ของอินวิเดียถูกกล่าวหาว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงอย่างร้ายแรง ภายหลังจากข่าวว่าสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติบางคนของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ชิปขั้นสูงที่ส่งออกไปยังต่างประเทศต้องติดตั้งฟังก์ชัน “การติดตามและระบุตำแหน่ง” (tracking and positioning)
ทั้งนี้ CAC ระบุว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เทคโนโลยี “การติดตามและระบุตำแหน่ง” และ “การปิดระบบจากระยะไกล” (remote shutdown) ของชิปอินวิเดีย ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับจีน
อย่างไรก็ดี อินวิเดียได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (1 ส.ค.) โฆษกของอินวิเดียกล่าวว่า “ความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา อินวิเดียไม่ได้สร้าง ‘ช่องโหว่’ ในชิปของเราที่จะทำให้ใครก็ตามสามารถเข้าถึงหรือควบคุมชิปจากระยะไกลได้”
การตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นจากจีนอาจสร้างความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ในอีกด้านหนึ่งให้กับเจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดียที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างนโยบายด้านเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ กับความต้องการที่จะขายสินค้าในตลาดจีนที่มีศักยภาพในการทำกำไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 68)