
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) หลังทำเนียบเครมลินประกาศว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าการดำเนินการทางการทูตเช่นนี้อาจจะทำให้สงครามในยูเครนยุติลง
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 63.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 66.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินจะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่ปี 2564
การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับรัสเซียไม่ได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่การพบกันระหว่างปธน.ปูตินกับอดีตปธน.โจ ไบเดน ที่นครเจนีวาในเดือนมิ.ย. 2564 หลังจากนั้นรัสเซียได้เปิดฉากสงครามในยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565 ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศตกต่ำลงสู่วิกฤตอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี เมื่อปธน.ทรัมป์กลับเข้าดำรงตำแหน่งในวาระสอง เขาได้แสดงท่าทีที่ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียและพยายามหาทางยุติสงครามในยูเครน
รายงานระบุว่า สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการภาษีทุติยภูมิ (Secondary Tariffs) กับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน ล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้สั่งเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียเพิ่มเติมอีก 25% เพื่อตอบโต้อินเดียที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 1 ใน 3 ของความต้องการภายในประเทศ ส่วนรัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ
ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล รวมทั้งได้แรงหนุนจากข่าวซาอุดีอาระเบียปรับขึ้นราคาน้ำมันสำหรับลูกค้าในเอเชีย และจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 68)