MALEE กางแผนครึ่งปีหลังขยายพอร์ตสินค้าเพิ่มความหลากหลายหลัง Q2/68 ฟื้นโต QoQ

นายเอกรินทร์ พินิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาลี กรุ๊ป [MALEE]เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลัง บริษัทฯเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมและน้ำมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง โดยจะพัฒนาสินค้าใหม่สู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมวางกลยุทธ์การสื่อสารและสร้างการรับรู้ภายใต้การนำเสนอคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจให้เข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลาย ซึ่งในประเทศไทยตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่ม มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น

รวมทั้งมุ่งสร้างการเติบโตโดยขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และรับจ้างผลิตไปในสินค้าที่ครบวงจรและหลากหลาย เช่น นมจากพืช (Plant base milk), ผลิตภัณฑ์ที่นำนมวัวเป็นวัตถุดิบหลักไปแปรรูป (Dairy milk), ชาและกาแฟ รวมทั้งเพิ่มความสามารถแข่งขันโดยมุ่งเน้นการปรับปรุงอัตรากำไร ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและมีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น น้ำมะพร้าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 ทำรายได้รวม 2,014.9 ล้านบาท เติบโต 10.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) และทำกำไรสุทธิ 81.1 ล้านบาท เติบโต 14.5% จากไตรมาสก่อน (QoQ) ตอกย้ำความสำเร็จและความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ มีรายได้จากการขายธุรกิจการรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) ที่ขยายตัวสูงจากยอดคำสั่งซื้อเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพทางเลือกยอดนิยม รวมทั้งกลุ่มชาและกาแฟพร้อมดื่มจากลูกค้ารายใหญ่ที่ได้ผลิตไปในทั้งสองไตรมาส ปี 2568 เนื่องจากตลาดกำลังขยายตัวจากพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมดื่มกาแฟพร้อมดื่มมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์นมมียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากสินค้าตัวใหม่

ขณะที่รายได้จากการขายธุรกิจสินค้าของบริษัทฯ (Branded Business) เติบโตต่อเนื่อง โดยน้ำผลไม้มาลี (Malee) น้ำมะพร้าว Malee COCO นมพร้อมดื่มฟาร์มโชคชัย และผลไม้กระป๋องมาลี (Malee) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว จึงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากตลาด โดยเฉพาะประเทศจีน ที่กลายเป็นตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง 34% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) โดยประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การทำตลาดอย่างแข็งแกร่ง

บริษัทได้ส่งแคมเปญโฆษณาครั้งใหญ่ นำ”จางหลิงเฮ่อ” (Zhang Linghe) ซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของประเทศจีนที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและเสน่ห์โดดเด่น มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ผ่านการสื่อสารแนวคิด “มาลีโคโค่ ไอเทมของจางหลิงเฮ่อ” หรือน้ำมะพร้าว Malee Coco เป็นไอเทมที่เขาเลือกดื่มเพื่อดูแลสุขภาพและรูปร่าง ซึ่งเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์สุขภาพดีที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความสดใสให้กับแบรนด์ ตอกย้ำการรับรู้ของแบรนด์ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ Malee ยังคงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมพร้อมดื่ม และมีการเติบโตสูงจากส่วนแบ่งในตลาดน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มในประเทศ เพิ่มขึ้น 2.7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

ขณะที่กำไรขั้นต้นไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 403.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.0 ล้านบาท เติบโต 7.7% สอดคล้องกับรายได้จากการขายของธุรกิจการรับจ้างผลิต (CMG) ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการการผลิต และซัพพลายเชนเป็นหัวใจสำคัญธุรกิจ บริษัทฯ วางแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญคือ เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity) ด้วยการวางแผนทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยได้ปรับปรุงระบบ ERP และกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อติดตามสถานะและข้อมูลการทำงานของเครื่องจักรได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการการผลิตได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาใช้ในระบบหลังบ้าน ซึ่งจะทำให้การทำงานมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังวางแนวทางลดต้นทุนโลจิสติกส์และบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบสินค้าได้ตามความคาดหวังของลูกค้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)