
ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงกว่า 10 จุดตามตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงขายหุ้นใหญ่ อาทิ PTT, THAI, CPALL, KTB,ADVANC, DELTA น่าจะเป็นแรงขายทำกำไรหลังขึ้นมามากแล้ว และมีปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน
เมื่อเวลา 14.24 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,247.88 จุด ลดลง 11.54 จุด (-0.92%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับลงไปมากยังเป็นเรื่องการขายทำกำไรต่อเนื่อง ในระยะสั้นเม็ดเงินต่างประเทศ หรือ Fund Flow ไหลออกหลังเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากว่า 1 เดือน โดยภาพตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไป 200 จุดแทบไม่พัก ก็น่าจะมีการขายทำกำไร จากความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดดอกเบี้ย
ขณะเดียวกันปัจจัยการเมืองในประเทศที่สำคัญทั้งในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า โดยในวันที่ 21 ส.ค.68 ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานในคดีคลิปเสียงสมเด็จ ฮน เซนกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่วนในวันที่ 22 ส.ค.68 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ดังนั้น จึงมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาด้วย
นอกจากนี้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68 ของไทยที่ประกาศออกมาเติบโต 2.8% มองว่าเป็นไปตามคาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับเพิ่ม GDP ปี 2568 โต 2% เมื่อพิจารณาในครึ่งแรกปี 68 โต 3% ก็คาดว่า GDP ในครึ่งปีหลังน่าจะเติบโต 1% ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจแผ่วแน่
ให้แนวรับหลักไว้ที่ 1,240-1,230 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าไม่หลุด โมเมมตัมระยะกลางยังดี ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,253-1,254 จุดถ้าขึ้นไปได้ ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,270-1,280 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)