ตร. ตั้ง War Room ปราบแก๊งคอลฯ ข้ามชาติ แต่ไม่ร่วมวงกัมพูชา หวั่นข้อมูลรั่ว

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศกค.ตร.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ได้ร่วมกันแถลงเปิดตัวศูนย์ War Room ปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ภายใต้แนวคิด “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เมื่อเกิดความเสียหายมูลค่ามากกว่า 100,000 บาท คดีจะถูกโอนเข้ามาที่ศูนย์ฯ ทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถประสานงานกับธนาคารเพื่อติดตามเส้นทางการเงินและดำเนินการอายัดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อตำรวจทราบจุดหมายปลายทาง จะมีการประสานตำรวจในพื้นที่เพื่อเข้าจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายครั้งขณะกำลังถอนเงินออกจากธนาคาร และสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมได้

อย่างไรก็ดี การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์เป็นเรื่องยาก แต่การจัดตั้งศูนย์ฯ ทำให้การติดตามจับกุมขบวนการทำได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจากมีการทำงานที่เป็นระบบและรวดเร็วกว่าเดิม อีกทั้งเป้าหมายหลักของศูนย์ฯ นอกจากจะจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดแล้ว ยังมุ่งเน้นการนำเงินคืนผู้เสียหายอย่างรวดเร็วด้วย

โดยกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ มีโครงการ Money Cash Back ที่จะคืนเงินให้ผู้เสียหายทันทีที่พบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับผู้เสียหาย สถิติการคืนเงินที่ก่อนหน้านี้ไม่เกิน 10% ได้เพิ่มขึ้นเป็น 27% โดยมีคดีที่สามารถติดตามเส้นทางการเงินจนถึงจุดสิ้นสุดและอายัดเงินได้แล้วกว่า 200 เรื่อง รวมถึงเงินสกุลดิจิทัลด้วย และคาดว่าในอนาคตอัตราการคืนเงินจะสูงขึ้นอีกหากระบบการสืบสวนถูกพัฒนาให้รวดเร็วกว่านี้

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ยกตัวอย่างผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้ ซึ่งมีบางส่วนที่สามารถอายัดเงินได้ทันทีจากความผิดปกติของเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ แม้กระทั่งตัวผู้เสียหายเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกลวง

 

  • ไม่ร่วมวงกัมพูชา กังวลข้อมูลสืบสวนรั่วไหล

ในส่วนของความร่วมมือระหว่างประเทศ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันอินเดียและญี่ปุ่นเป็นสองประเทศแรกที่เริ่มทำงานร่วมกันกับศูนย์ฯ ด้วยระบบออนไลน์ และจะมีประเทศอื่น ๆ ตามมา เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา

ส่วนประเทศที่มีปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ 2 ประเทศหลัก ๆ อย่างเมียนมาร์และกัมพูชา พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เมียนมาร์จะเข้าร่วมทำงานกับศูนย์ฯ ด้วย เนื่องจากแก๊งคอลเซนเตอร์ส่วนมากอยู่ภายใต้การดูแลของชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน เป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลเมียนมาร์ต้องการจัดการเช่นกัน

ขณะที่ประเทศกัมพูชา จะไม่มีการขอความร่วมมือในศูนย์ฯ ดังกล่าว เนื่องจากว่ากัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีการส่งข้อมูลตามที่ประเทศไทยเคยประสานไว้ อีกทั้งกังวลว่าข้อมูลการสืบสวนของคณะทำงานจะรั่วไหล

ส่วนที่ผ่านมาการดำเนินคดีเครือข่ายอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ผู้ต้องหาหลักเป็นชาวกัมพูชา พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ในชั้นสืบสวนยังไม่พบมีกรณีใดที่เชื่อมโยงถึงระดับผู้นำ อาทิ สมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 68)