
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน หลังจากรัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้กระบวนการสันติภาพหยุดชะงัก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงแข็งแกร่ง
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 63.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 67.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
การเจรจาที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงสันติภาพในยูเครนกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากรัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษกันว่าทำให้กระบวนการสันติภาพหยุดชะงัก โดยล่าสุดรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ใกล้ชายแดนยูเครนที่ติดกับสหภาพยุโรปในวันพฤหัสบดี ขณะที่ยูเครนได้ทำการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย
นักวิเคราะห์จากบริษัท PVM Oil Associates กล่าวว่า ความไม่แน่นอนในการเจรจาสันติภาพหมายความว่า รัสเซียยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้รัสเซียเผชิญกับความยากลำบากในการกลับมาส่งออกน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล และมากกว่าที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 68)