
องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (22 ส.ค.) เรียกร้องให้รัฐบาลและนายจ้างทั่วโลกออกมาตรการอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องสุขภาพของเหล่าผู้ใช้แรงงาน ซึ่งกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ
บรรดาหน่วยงานในสังกัด UN ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นสาเหตุให้คลื่นความร้อนเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนงานทั่วโลกแล้วในปัจจุบัน
ข้อมูลดังกล่าวปรากฏในรายงานและคู่มือฉบับปรับปรุงใหม่ จากฉบับเดิมที่เคยตีพิมพ์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 และได้รับการยอมรับว่าเป็นการปรับปรุงที่ “จำเป็นอย่างยิ่งยวด” ในสถานการณ์ปัจจุบัน
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า เมื่ออุณหภูมิสูงเกิน 20 องศาเซลเซียส ผลิตภาพของแรงงานจะลดลงราว 2-3% ในทุก ๆ 1 องศาฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประชากรโลกกว่าครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นอยู่แล้วในตอนนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แจ้งว่า ภัยสุขภาพจากความร้อนมีอยู่หลายประการ อาทิ โรคลมแดด (ฮีตสโตรก), ภาวะร่างกายขาดน้ำ, ไตทำงานบกพร่อง และความผิดปกติทางระบบประสาท
ทั้งสองหน่วยงานยังชี้ด้วยว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ประกอบอาชีพกลางแจ้ง เช่น เกษตรกร คนงานก่อสร้าง และชาวประมง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด เช่นเดียวกับเด็กและคนชราในประเทศกำลังพัฒนา
“การปกป้องคนงานจากสภาพอากาศร้อนจัดไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องสำคัญเร่งด่วนทางสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังเป็นความจำเป็นในทางเศรษฐกิจอีกด้วย” โค บาร์เร็ตต์ รองเลขาธิการ WMO กล่าว
ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานในสังกัด UN จึงเรียกร้องให้จัดทำแผนรับมือภัยความร้อนสำหรับแต่ละภูมิภาคและอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ซึ่งต้องพัฒนาร่วมกันระหว่างผู้ใช้แรงงาน นายจ้าง สหภาพแรงงาน และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข
ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นในบางประเทศ ซึ่งสหภาพแรงงานได้พยายามผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมอุณหภูมิสูงสุดในที่ทำงาน อันเป็นหนึ่งในทางเลือกที่หน่วยงานในสังกัด UN เห็นว่านำไปปรับใช้ได้ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศตามบริบทแวดล้อม
นอกจากนี้ มีการเรียกร้องให้จัดการฝึกอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และหน่วยกู้ภัยอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากอาการเจ็บป่วยจากความร้อนมักถูกตรวจวินิจฉัยคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ
เมื่อไม่นานมานี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้สำรวจพบว่า ทั่วโลกมีผู้ใช้แรงงานกว่า 2.4 พันล้านคนที่ต้องทำงานในภาวะอากาศร้อนจัด จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุจากการทำงานปีละกว่า 22.85 ล้านครั้ง
“ไม่ควรมีใครต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับภาวะไตวายหรือการหมดสติเพียงเพื่อแลกกับค่าแรงประทังชีพ” รือดิเกอร์ เครช รักษาการผู้อำนวยการแผนกสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของ WHO กล่าวในที่ประชุมสื่อมวลชนก่อนการเผยแพร่รายงานฉบับนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 68)