
นางสาวปาหนัน โตสุวรรณถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บัญชีและการเงิน บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ [BEM] ชี้แจงกรณีการเลื่อนใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในวันที่ 1 ต.ค.68 เป็น้กลาง พ.ย.68 ว่า ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท เพราะปัจจุบันจำนวนผู้โดยสาร (ridership) ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็หนาแน่นอยู่แล้ว โดยในเดือน ส.ค.68 ที่ผ่านมาทะลุ 5 แสนเที่ยว-คน/วันแล้ว จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้โดยสารไม่ได้ลดลงอย่างที่กังวลกัน เพียงแต่นโยบาย 20 บาทอาจมาช้าไปบ้าง แต่ไม่มีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทแน่นอน
ทั้งนี้ในเดือนส.ค.68 จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในวันธรรมดา (Weekday) อยู่ที่ 5.2 แสนคน/วัน เติบโต 6% จากเดือนก.ค.68 ที่มีจำนวนผู้โดยสาร Weekly เฉลี่ย 4.9 แสนคน/วัน โดยในวันศุกร์มีจำนวนผู้โดยสารพุ่งสูงถึง 5.3-5.4 แสนคน/วันแล้ว นอกจากนี้ ในปีนี้รายได้จากค่าโดยสารได้รับการปรับอัตราค่าโดยสารเต็มปี
“ตอนนี้ Ridership ใน weelday มากกว่า 5 แสนคนทุกวันเลย ดีขึ้นตามลำดับจากก่อนนี้ที่รับผลกระทบเศรษฐกิจจนต่ำกว่า 5 แสน ซึ่งขึ้นมา 5 แสนตั้งแต่ส.ค. ตอนนี้ก็มีปัญหารถแน่นก็เป็นปัญหาเชิงบวกของเรา ส่วนนโยบาย 20 บาทไม่ได้ทำให้บริษัทแย่ลง แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ “นางสาวปาหนัน กล่าวกับ”อินโฟเควสท์”
สำหรับการปรับแก้สัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้มีการหารือเบื้องต้นแล้ว ที่จะให้ส่วนต่างรายได้ที่เกิดจากนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ทางบริษัทจะให้ส่วนแบ่งรายได้กับรัฐ
เช้านี้ ราคาหุ้น BEM ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.05 บาท (-0.95%) ไหลลงต่อจากวานนี้ที่ลดลง 2.78% หรือ 0.15 บาท ปิดที่ 5.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 68)