รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นคำร้องด่วนต่อศาลฎีกา หวังระงับจ่ายเงินช่วยเหลือต่างประเทศ

คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ในวันอังคาร (26 ส.ค.) ให้อนุญาตให้รัฐบาลระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ท้าทายคำสั่งของศาลรัฐบาลกลางที่บังคับให้รัฐบาลต้องชำระเงินต่อไป

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ฉุกเฉิน โดยระบุว่า คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ในเขตดี.ซี. ได้ตัดสินให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปแล้วในช่วงต้นเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม คำสั่งที่บังคับให้รัฐบาลต้องชำระเงินต่อไปยังคงมีผลอยู่ เนื่องจากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางปฏิเสธที่จะระงับคำสั่งนี้ โดยสั่งให้รัฐบาลทรัมป์จ่ายเงินช่วยเหลือที่ค้างชำระเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ผู้รับเหมาโครงการช่วยเหลือต่างประเทศทั่วโลก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเดือนมี.ค. นั้น ศาลฎีกาปฏิเสธที่จะอนุญาตให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงการชำระเงินเหล่านี้ โดยในขณะนี้ รัฐบาลทรัมป์กำลังกดดันให้มีคำตัดสินที่ชัดเจน โดยให้เหตุผลว่า หากไม่มีการแทรกแซงจากผู้พิพากษา รัฐบาลจะถูกบังคับให้ชำระเงิน ซึ่งจะขัดแย้งกับการตัดสินใจเชิงนโยบายต่างประเทศของฝ่ายบริหาร

ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ประกาศระงับการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นับแต่นั้นเป็นต้นมา หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็พิจารณาย้ายหน่วยงานดังกล่าวไปอยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 68)