
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางตลาดแรงงานและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 28.80 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 3,606.70 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนจับตาตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลังจากมีข้อมูลหลายรายการที่บ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอของตลาดแรงงาน และทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นเกือบ 100% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 104,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 237,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 231,000 ราย
ทั้งนี้ ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย มักจะทำผลงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน
นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกระดับการกดดันเฟดด้วยการปลดลิซา คุก สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด ซึ่งนำไปสู่การต่อสู้กันทางกฎหมายในขณะนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำนั้น อดัม กลาปินสกี ผู้ว่าการธนาคารกลางโปแลนด์ได้วางแผนที่จะเสนอให้เพิ่มสัดส่วนทองคำในระบบทุนสำรองเป็น 30% จาก 20% ในปัจจุบัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 68)