
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (8 ก.ย.) ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับการลงมติไม่ไว้วางใจซึ่งนำไปสู่การปลดนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของฝรั่งเศสในรอบ 3 ปี
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 552.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.83 จุด หรือ +0.52%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,734.84 จุด เพิ่มขึ้น 60.06 จุด หรือ +0.78%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,807.13 จุด เพิ่มขึ้น 210.15 จุด หรือ +0.89% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,221.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.23 จุด หรือ +0.14%
ฟรองซัวส์ บายรู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในการลงมติไม่ไว้วางใจในวันจันทร์ ขณะที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับสองของยุโรปกำลังประสบความยากลำบากในการควบคุมหนี้สาธารณะ และฝรั่งเศสจะเผชิญกับการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือในสัปดาห์นี้
แม้ตลาดปรับตัวขึ้น แต่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสยังทำผลงานแย่กว่าดัชนี STOXX นับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านการคลัง
การล่มสลายของรัฐบาลเสียงข้างน้อยของบายรูยิ่งซ้ำเติมปัญหาของฝรั่งเศส ในขณะที่ยุโรปกำลังพยายามสร้างเอกภาพในด้านสงครามรัสเซีย-ยูเครน การขยายอิทธิพลของจีน และความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสอายุ 30 ปี ลดลง 0.044% สู่ระดับ 4.336% หลังจากก่อนหน้านี้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิ.ย. 2552 ที่ 4.523%
หุ้นส่วนใหญ่ในดัชนี STOXX 600 ปิดบวก นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่พุ่งขึ้น 1.8% ตามมาด้วยกลุ่มก่อสร้างและวัสดุที่เพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.5%
หุ้นกลุ่มพลังงานและก๊าซเพิ่มขึ้น 0.6% ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวขึ้น โดยความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อการส่งออกน้ำมันดิบรัสเซียหลังเหตุโจมตีในยูเครนมีน้ำหนักมากกว่าการที่กลุ่มโอเปกพลัสวางแผนเพิ่มกำลังการผลิต
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มโทรคมนาคมร่วง 1.5% สะท้อนแรงกดดันจากบริษัทโทรคมนาคม หลัง EchoStar ตกลงขายใบอนุญาตคลื่นความถี่ไร้สายให้ SpaceX
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลง 0.6% โดยหุ้น Novo Nordisk ร่วง 0.9% หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ประกาศเพิ่มการตรวจสอบการนำเข้าตัวยาสำหรับโรคอ้วน เนื่องจากกังวลว่าหลายรายการอาจปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ การส่งออกของเยอรมนีลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนก.ค. เนื่องจากอุปสงค์จากสหรัฐฯ หดตัวลงอย่างหนักเพราะภาษีนำเข้าที่ระดับสูง ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ECB จะยังไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อเคลื่อนไหวใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% และผู้กำหนดนโยบายกำลังประเมินผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจยูโรโซน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 68)