“อี แจ-มย็อง” หวั่น เหตุจู่โจมจับกุมแรงงานเกาหลีใต้ส่อเค้ากระทบการลงทุนในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง แห่งเกาหลีใต้ ได้แถลงวันนี้ (11 ก.ย.) แสดงความกังวลต่อกรณีที่ทางการสหรัฐฯ บุกเข้าจับกุมแรงงานชาวเกาหลีหลายร้อยคน ณ ที่ตั้งโครงการของบริษัทฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้นักลงทุนจากเกาหลีใต้ต้องทบทวนการตัดสินใจที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ

ในการแถลงข่าว ผู้นำเกาหลีใต้ระบุว่า ปฏิบัติการจู่โจมดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสับสนอย่างยิ่ง และส่อเค้าว่าจะทำให้นักลงทุนชาวเกาหลีใต้เกิดความ “ลังเลใจ” ที่จะนำเงินไปลงทุนในสหรัฐฯ

เหตุการณ์จู่โจมจับกุมแรงงานชาวเกาหลีใต้ราว 300 คนในพื้นที่โครงการของฮุนได มอเตอร์ ณ รัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วสังคมเกาหลีใต้ และก่อให้เกิดคำถามถึงความเชื่อมั่นในการเข้าไปประกอบธุรกิจในสหรัฐฯ

ปธน.อีแจ้งว่า สำหรับแรงงานชาวเกาหลีใต้ทั้ง 316 คนที่ยังถูกควบคุมตัวนั้น จะได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์กักกันในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเดินทางกลับประเทศด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ

ในประเด็นอื่น ปธน.อียังกล่าวถึงแผนการปฏิรูปภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gains Tax) ว่า เวลานี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องผลักดันแผนดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ภาษีจากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะการปรับลดเพดานสำหรับนิยาม “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” ที่จะต้องเสียภาษีในส่วนนี้ เนื่องจากแผนปฏิรูปดังกล่าวได้จุดกระแสคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มนักลงทุนในประเทศ

ปธน.อีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลีว่า รัฐบาลโซลจะยังคงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ และสถาปนาสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีให้จงได้ แม้ว่าที่ผ่านมาท่าทีของรัฐบาลเปียงยางจะยังคงนิ่งเฉยต่อความพยายามดังกล่าวก็ตาม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)