ฮ่องกงผลักดันฐานประกอบ EV เจรจาค่ายใหญ่จีน รับมือเศรษฐกิจซบ

ฮ่องกงกำลังเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายของจีนเพื่อจัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยมีเป้าหมายใช้เป็นอุตสาหกรรมขั้นสูงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา

เจ้าหน้าที่ฮ่องกงตั้งเป้าพัฒนาฐานประกอบ EV ในเขตดินแดนใหม่ที่ติดกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยกระบวนการนี้ถือว่าซับซ้อนและต้องใช้ทักษะขั้นสูง โดยการเจรจาครอบคลุมไปถึงกลุ่มเอฟเอดับเบิลยู (FAW Group) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของรัฐบาลจีน

แม้ฮ่องกงพยายามโปรโมตตัวเองเป็นศูนย์กลางการผลิตขั้นสูงเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงาน แต่ต้นทุนค่าแรงและค่าเช่าที่ดินสูงยังเป็นอุปสรรค ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเผชิญปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน โรงงานหลายแห่งผลิตได้เพียงครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ และต้องเจอกับสงครามราคาที่รุนแรงจนรัฐบาลจีนต้องเข้ามาแทรกแซง

ผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ตั้งแต่ผู้ผลิตแบตเตอรี่จนถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างเข้ามาตั้งฐานในฮ่องกงเพื่อใช้ประโยชน์จากระบบการเงินสำหรับการขยายสู่ตลาดโลก คอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี (Contemporary Amperex Technology) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดสำนักงานใหญ่ระดับนานาชาติที่ฮ่องกง และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อเดือนพ.ค. ด้วยมูลค่าการระดมทุนสูงที่สุดของปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทด้านการขับเคลื่อนอัตโนมัติ เช่น แบล็ก เซซามี เทคโนโลยีส์ (Black Sesame Technologies) และปักกิ่ง ฮอไรซัน โรโบติกส์ เทคโนโลยี อาร์แอนด์ดี (Beijing Horizon Robotics Technology R&D) ที่ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สร้างฐานธุรกิจในฮ่องกง

ฮ่องกงหันมาพึ่งพาอุตสาหกรรมใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโต หลังเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจจากการปราบปรามทางการเมือง การล็อกดาวน์โควิด และภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ ซึ่งทำให้สถานะเมืองในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลกลดลง รัฐบาลต้องใช้มาตรการรุนแรง เช่น การปรับลดตำแหน่งข้าราชการหลายพันตำแหน่ง และการขึ้นภาษี เพื่อพยุงฐานะการคลังและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนด้านการค้าโลก

สำนักงานนวัตกรรม เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมของฮ่องกงระบุว่า ฮ่องกงกำลังส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการผลิตขั้นสูง ตามแผนแม่บทนวัตกรรมและเทคโนโลยี (I&T) ปี 2565

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 68)