
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้ออกประกาศขยายเวลาห้ามการบังคับหรือปล่อยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมกำหนดสิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. เนื่องจากทางหน่วยงานความมั่นคงยังคงเห็นความจำเป็นในการควบคุมพื้นที่บางส่วนเพื่อรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประเทศ
พื้นที่ที่ยังคงห้ามบินเด็ดขาด
– 5 จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึกหรือมีกองกำลังภาคพื้น ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี
– พื้นที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี, อำเภอเมือง จ.ระยอง, อำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และอำเภอเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
– พื้นที่รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบิน รวมถึงสนามบินโคกกระเทียม จ.ลพบุรี และสนามบินประจวบฯ
– พื้นที่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงประกาศเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม CAAT ตระหนักถึงความจำเป็นของประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการที่ต้องใช้งานโดรนในชีวิตประจำวันและภาคการเกษตร จึงผ่อนคลายให้สามารถทำการบินได้ในเกือบทุกพื้นที่ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด คือ
– ผู้ใช้งานต้องขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรนและอากาศยานกับ CAAT ให้ถูกต้องครบถ้วน
– ยื่นคำขออนุญาตและแจ้งรายละเอียดพื้นที่ วันเวลา และวัตถุประสงค์การบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านระบบ UAS Portal (uasportal.caat.or.th) และแจ้งต่อ ศูนย์ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (ศบตอ.น.)
– สามารถบินได้ในเวลา 06.00-18.00 น. หากต้องการบินนอกช่วงเวลาดังกล่าว ต้องขออนุญาตจาก CAAT แต่ห้ามบินในช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ทุกกรณี
– การปฏิบัติการบินที่แตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนด ต้องยื่นคำขออนุญาตเพิ่มเติมต่อ CAAT ผ่าน UAS Portal
สำหรับโดรนของราชการทหาร ตำรวจ ศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สามารถปฏิบัติการได้ตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้เฉพาะโดรนของศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ หากมีการบินในพื้นที่ห้ามบิน ต้องแจ้งข้อมูลล่วงหน้าผ่าน UAS Portal และต่อ ศบตอ.น. รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 68)