
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยในวันนี้ (15 ก.ย) ว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.9% และชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.7%
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 5.2% ชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 5.7% และเป็นการขยายตัวช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ขยับขึ้นเพียง 0.5% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.6% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.4% โดยการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวลงถึง 12.9% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนส.ค. เนื่องจากอุปสงค์ยังคงอ่อนแอ และจากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคการผลิต ซึ่งทำให้ผลผลิตปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ อัตราว่างงานในพื้นที่เขตเมืองของจีนอยู่ที่ระดับ 5.3% ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 5.2% ในเดือนก.ค. โดยสำนักงานสถิติระบุว่าเป็นผลมาจากฤดูการจบการศึกษา
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุในแถลงการณ์ว่า “เราควรตระหนักว่ามีปัจจัยที่ไร้เสถียรภาพและไม่แน่นอนหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาการทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ”
“เราจำเป็นต้องดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพของการจ้างงาน ธุรกิจ ตลาด รวมถึงการยกระดับการปฏิรูป การเปิดประเทศ และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและแข็งแกร่ง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)