
นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีมีข่าวการอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ส่งผลให้บัญชีของประชาชนที่อยู่ในเส้นทางเงินที่รับโอนจากบัญชีม้าถูกอายัด ซึ่งรวมไปถึงบัญชีของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้ขณะนี้ บรรดาร้านค้าต่าง ๆ ที่ต้องรับโอนเงินจากลูกค้า เริ่มประกาศว่าจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ว่า เส้นทางเงินของบัญชีม้า คือ เมื่อถูกโกงเงินผ่านออนไลน์ เงินจะวิ่งไปบัญชีแรกที่โอนไปคือบัญชีม้า และภายในเวลาไม่เกิน 20-30 นาที เงินนี้จะไหลออกไปอีกหลายบัญชี ดังนั้น กระบวนการเบื้องต้นที่การจัดการปัญหานี้ คือ สามารถจับคนร้ายได้ แต่นำเงินกลับคืนมาไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันมีคดีที่ถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ถึงวันละ 1,000 ราย สูญเสียเม็ดเงินไปหลาย 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การสร้างระบบเพื่อชะลอการไหลของเม็ดเงิน จึงต้องมีระบบการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว แต่ไม่ใช่การอายัดบัญชี โดยจะให้อำนาจธนาคารพาณิชย์ชะลอวงเงิน หรือระงับการทำธุรกรรมภายใต้วงเงินนั้นไว้ เพื่อรอการจัดการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระยะเวลาที่จะระงับไว้ตามกฎหมาย คือ 72 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย แต่หากผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ ระยะเวลานั้นก็จะกลายเป็น 7 วัน หลังจากนี้ถ้าตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการ มีหมายมา การระงับธุรกรรมในระยะเวลาชั่วคราวจะหมด
ส่วนเรื่องการอายัดบัญชี เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ถ้ามีการตรวจสอบจากตำรวจเพิ่มเติมว่าน่าจะเป็นบัญชีม้า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็มีมาตรการในการระงับหรือปิดทุกบัญชีของบัญชีม้า โดยการดำเนินการจะมีหลายระดับ ถ้าระดับเบื้องต้น คือ การระงับธุรกรรมชั่วคราวประมาณ 7 วัน เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) ช่วยให้คนที่เคยมีปัญหาโทรมาที่เดียว และมีกระบวนการแจ้งไปที่ธนาคาร และพนักงานสอบสวน ทำให้กลไกเรื่องความยากลำบากของผู้บริสุทธิ์ลดลง ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องการอายัดบัญชี
“ถ้ามีเงิน 100 บาท ถ้าไปรับเงินที่ผิดกฎหมายมา 5 บาท กลายเป็น 105 บาท คนนั้น ๆ จะใช้เงิน 5 บาทนั้นไม่ได้ ส่วนเงิน 100 บาทยังใช้ได้อยู่” นายวิศิษฏ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีประชาชนประสบปัญหา โดนระงับทั้งบัญชี ไม่ใช่ระงับเฉพาะธุรกรรมนั้น นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า วานนี้ (14 ก.ย.) ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม ซึ่งธนาคารพาณิชย์ยืนยันว่า สั่งระงับการทำธุรกรรมเฉพาะวงเงินนั้น แต่ถ้าในบัญชีมีเงินน้อย ก็อาจส่งกระทบทั้งบัญชีได้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าถ้าธนาคารพาณิชย์ทำไม่ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน
“เมื่อวานนี้ เขาก็ยืนยันว่าเขาระงับเฉพาะธุรกรรม แต่เขาอาจจะปรับวิธีการ ว่าเวลาจะทำอะไร จะต้องไปที่ธนาคารด้วยเพื่อแสดงตัวตน ถ้าเรื่องการระงับวงเงิน ไม่ได้เป็นทั้งบัญชี เว้นแต่ว่าถูกอายัดจากตำรวจ หรือ ปปง.” ปลัดกระทรวงดีอี ระบุ
ในส่วนของการแจ้งไปที่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อระงับธุรกรรมของบัญชีนั้น นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายจะแจ้งไปที่ศูนย์ 1441 และส่งต่อข้อมูลให้ธนาคาร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำศูนย์ฯ จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการรับคำร้องทุกข์ โดยจะเข้าไปในระบบของตำรวจที่เรียกว่า Thai police online (TPO) และจะให้เลขคดีกับผู้เสียหาย และเช็กว่าจะไปที่ไหน เพื่อที่จะทำคดีอาญาต่อไป
“เมื่อก่อนบัญชีม้า เป็นม้าแบบหลบซ่อนใช้บัญชีแต่กับเรื่องผิด แต่ตอนนี้ อาจจะมีม้าแบบเปิดเผย อาจเอาไปทำทั้งเรื่องผิดด้วย และเอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ ได้มีการกำหนดแนวทางชัดเจนว่า ธนาคารต้องไม่ไปก้าวล่วงกับการทำธุรกรรมที่ปกติถูกต้อง ก็มีอำนาจที่จะไม่ดำเนินการระงับได้ ซึ่งต้องกำหนดให้ธนาคาร 18-19 ธนาคารทำเหมือนกัน เพราะเวลาคนโทรเข้ามาเพื่อจะขอปลด เราก็ใช้หลักการเดียวกันคือถ้าเราดูแล้วเขาไม่มีเหตุอะไร และเป็นการซื้อมาขายไปปกติ เราก็จะปลดเขาทันที ซึ่งประชาชนที่โทรมาขอปลดวานนี้ มีทั้ง 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นบัญชีม้าจริง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเมื่อวานนี้ ก็มีกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีเคสที่ปลดได้ประมาณ 10% เท่านั้น” นายวิศิษฏ์ กล่าว
ส่วนการแยกแยะว่าบัญชีที่รับเงินจากบัญชีม้า ถูกต้องหรือไม่นั้น นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ศูนย์ AOC 1441 จะมีการสแกนเบื้องต้น หลังจากนั้นการไล่ตามเม็ดเงิน ไม่ต้องดูว่าเงินนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะผิดมาตั้งแต่ต้นทาง หน้าที่ของธนาคารคือการดูว่าลูกค้าเปิดบัญชีมาแล้วทำอะไรบ้าง ก็นำข้อมูลนี้มาประมวลกับเส้นการเงินของศูนย์ AOC 1441 ก็จะทำให้สามารถปลดคนที่บริสุทธิ์ออกได
โดยได้ขอให้ธนาคารช่วยพิจารณาว่า ถ้าไม่เข้าเกณฑ์บัญชีม้า ก็ไม่ต้องระงับธุรกรรมชั่วคราว เพราะแม้จะระงับธุรกรรมชั่วคราวในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ดังนั้นกระบวนการปลดล็อกจะต้องเร็ว ซึ่งถ้าสามารถตัดตั้งแต่ต้นทางได้ ก็น่าจะทำให้คนที่ได้รับผลกระทบมีน้อยลง
“เข้าใจว่าสิ่งแรกที่ธนาคารทำ คือ พยายามตามไประงับการทำธุรกรรม ซึ่งตอนนี้ ได้มีการปรับเพิ่มเติมว่าในส่วนของการปลด ธนาคารจะไม่ให้ข้อมูลเส้นทางการเงิน ดังนั้น จึงต้องมีศูนย์รวม ซึ่งได้ให้ผู้อำนวยการศูนย์ AOC ดำเนินการ War room ให้สามารถดำเนินการปลดได้ในทันที และได้มีการพูดคุยกับ ธปท. ว่า กระบวนการดังกล่าว ควรมีวิธีการให้ธนาคารสามารถดูจากการเคลื่อนไหวทางบัญชีของลูกค้าได้”
สำหรับกระบวนการหากถูกระงับธุรกรรม ประชาชนสามารถโทรแจ้งไปที่ 1441 ไม่ต้องไปที่ธนาคารพาณิชย์ โดยแจ้งชื่อ-เลขประจำตัวประชาชน แจ้งชื่อธนาคาร และเลขบัญชีธนาคาร ก็จะเข้ากระบวนการตรวจสอบได้ทันที ซึ่งถ้าไม่เป็นบัญชีม้า จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามารถตรวจสอบได้แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)