
ผลผลิตถ่านหินและเหล็กของจีนปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. เนื่องจากรัฐบาลจีนคุมเข้มการผลิต ขณะที่วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เช่น ปูนซีเมนต์และกระจก ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี
การผลิตถ่านหินลดลง 3.2% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 391 ล้านตัน ซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากเผชิญฝนตกหนักและรัฐบาลประกาศมาตรการจำกัดการขุดเหมือง ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตถ่านหินได้รับแรงกดดันน้อยลง เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และมีการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น
ด้านการผลิตเหล็กปรับตัวลดลง 0.7% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 77.4 ล้านตัน ซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยโรงงานหลายแห่งปรับลดการผลิตตั้งแต่เดือนพ.ค. เพื่อเพิ่มอัตรากำไร ขณะที่มาตรการควบคุมมลพิษในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเหล็ก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน
ส่วนการผลิตอะลูมิเนียมยังทรงตัวที่ 3.8 ล้านตัน ขณะที่การกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 7.6% สู่ระดับ 63.5 ล้านตัน เนื่องจากโรงงานหลายแห่งกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งหลังปิดบำรุงรักษาตามฤดูกาล
ส่วนอัตราเงินฝืดภาคโรงงานเดือนส.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สะท้อนสัญญาณเบื้องต้นว่ามาตรการของรัฐบาลจีนในการควบคุมการแข่งขันที่มากเกินไปเริ่มเห็นผล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)