ทรัมป์หนุนบริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการรายครึ่งปี เชื่อช่วยลดต้นทุน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ควรได้รับอนุญาตให้รายงานผลประกอบการทุก ๆ หกเดือน แทนที่จะเป็นรายไตรมาส โดยปธน.ทรัมป์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวซึ่งเขาเคยเรียกร้องไปแล้วในปี 2561 นั้น จะช่วยลดต้นทุนและไม่ทำให้เกิดการคาดการณ์ในระยะสั้นเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของปธน.ทรัมป์อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับภาคธุรกิจของอเมริกา ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ระบุว่า SEC จะให้ความสำคัญกับข้อเสนอของทรัมป์เป็นอันดับแรก

ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล ในวันจันทร์ (15 ก.ย.) ว่า “นี่จะเป็นการลดต้นทุน และช่วยให้ผู้บริหารสามารถมุ่งเน้นไปที่การบริหารบริษัทของตนอย่างเหมาะสม”

ปัจจุบัน SEC กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องรายงานงบการเงินทุก ๆ 90 วัน ส่วนการรายงานทุกครึ่งปีอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูล และทำให้สหรัฐฯ อยู่ในแนวทางเดียวกับสหราชอาณาจักรและอีกหลายประเทศในสหภาพยุโรป

ในปี 2561 คณะกรรมการ SEC ได้จัดทำประชาพิจารณ์เพื่อขอความเห็นจากสาธารณะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่ท้ายที่สุดก็ยังคงระบอบปัจจุบันไว้ อย่างไรก็ดี ในครั้งนี้ SEC ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เมื่อพิจารณาจากการที่โฆษกของ SEC กล่าวว่า “ในกรณีคำร้องขอของปธน.ทรัมป์นั้น ประธานแอตกินส์และ SEC กำลังให้ความสำคัญกับข้อเสนอนี้ เพื่อลดภาระด้านกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นต่อบริษัทต่าง ๆ”

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนเตือนว่า การรอคอยข้อมูลทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลานานขึ้นอาจหมายถึงความโปร่งใสที่ลดน้อยลง โดยอาจทำให้บริษัทจดทะเบียนมีโอกาสมากขึ้นในการซ่อนหรือชะลอการเปิดเผยข่าวในด้านลบ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น และทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความน่าดึงดูดน้อยลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)