
สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานถึงชะตากรรมของแรงงานชาวกัมพูชานับล้านคนที่แห่เดินทางกลับจากประเทศไทย หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวงในการหางานทำ ทั้งที่ทางการจังหวัดกำปงสปือ ซึ่งเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดของประเทศ ประกาศว่ามีตำแหน่งงานว่างรออยู่กว่า 20,000 ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลกัมพูชาโดยกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพ (MLVT) ได้เคยให้คำมั่นว่าจะอำนวยความสะดวกให้แรงงานกลับคืนสู่สังคม ด้วยการจัดหาตำแหน่งงานที่เพียงพอรองรับ แต่สถานการณ์จริงกลับสร้างความผิดหวัง เมื่อการเข้าถึงงานเป็นเรื่องยาก ความอัดอั้นใจของแรงงานถูกระบายผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะบนเฟซบุ๊กและติ๊กต๊อก ที่เต็มไปด้วยเสียงบ่นเรื่องเงินเก็บที่กำลังจะหมดไป สวนทางกับข้าวของที่แพงขึ้นทุกวัน
เควิน นาอึน คณบดีคณะสังคมศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย Pannasastra University of Cambodia (PUC) ให้ทัศนะว่า ปัญหาสำคัญคือทักษะของแรงงานไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ผู้ที่เดินทางกลับกัมพูชาส่วนใหญ่เคยทำงานทักษะต่ำในประเทศไทย เช่น งานก่อสร้าง งานดูแล และงานเกษตรตามฤดูกาล ขณะที่โรงงานในประเทศต้องการผู้ควบคุมเครื่องจักรหรือช่างไฟฟ้า ซึ่งเป็นทักษะที่แรงงานจำนวนมากขาดแคลน
เขาเสนอว่า ในระยะสั้น รัฐบาลสามารถขยายการให้เงินช่วยเหลือโดยตรงและจัดโครงการสาธารณประโยชน์ในชนบท ส่วนในระยะกลาง จำเป็นต้องมีการปฏิรูปที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น การขยายขีดความสามารถในการฝึกอาชีพ และสร้างคลัสเตอร์การแปรรูปในท้องถิ่นเพื่อให้แรงงานสามารถทำงานใกล้บ้านได้
ด้านเซบาสเตียน จอร์จ ประธานและซีอีโอของ MV Group Cambodia ชี้ว่า ภาคเกษตรกรรมซึ่งเคยเป็นทางเลือกสำรอง ไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้อีกต่อไป เนื่องจากการลดลงของราคาข้าวเปลือกและมันสำปะหลังได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรายได้ของเกษตรกร เขาเสนอว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องเกษตรกรรายย่อย เช่น การใช้ราคาพยุงขั้นต่ำสำหรับพืชผลหลัก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในชนบท และการจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่เข้าถึงได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)