ผู้ว่าฯ ธปท.รับบาทแข็งค่าไม่สอดคล้องเศรษฐกิจ เก็บภาษีซื้อขายทอง-ใช้ดอลลาร์ยังแค่หารือ

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากที่ ธปท. ได้ประชุมร่วมกับสมาคมผู้ค้าทองคำวานนี้ (15 ก.ย.) เพื่อร่วมกันหาแนวทางลดผลกระทบของการค้าทองคำที่จะมีต่อค่าเงิน ยอมรับว่าหนึ่งในแนวทางที่หยิบยกขึ้นมาหารือ คือการเก็บภาษีซื้อขายทองคำแท่ง รวมถึงการซื้อขายทองคำด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อค่าเงินบาท

อย่างไรก็ดี การจะตัดสินใจในแนวทางใดนั้นจะต้องมีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เนื่องจากการซื้อขายทองคำมีผลเกี่ยวเนื่องกับหลายภาคส่วน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ

“การ trade ทองคำกระทบกับหลายคน หลายแวดวง และต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการที่เหมาะสม ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ เรื่องภาษี คือหนึ่งในเรื่องที่คุยกัน แต่ท้ายที่สุดจะออกมาแบบไหนนั้น คงต้องเป็นมาตรการที่หารือร่วมกันแล้วเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่อยู่มานานแล้ว” ผู้ว่าการ ธปท. ระบุ

ส่วนที่มีข้อห่วงใยจากภาคเอกชนต่อกรณีมีการส่งออกทองคำไปต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลให้เงินบาทแข็งค่า จะมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า ข้อมูลก็เป็นไปตามที่กรมศุลกากรชี้แจง แต่จะเชื่อมโยงธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้ แต่เราก็แสดงความเป็นห่วง และได้ประสานงานไปกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อให้ช่วยดูที่มาว่าเชื่อมโยงกับสิ่งที่ภาคเอกชนแสดงความเป็นห่วงหรือไม่

ผู้ว่าฯ ธปท. ยังกล่าวถึงเงินบาทที่แข็งค่าว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้ว 7% ซึ่งยอมรับว่าเป็นการแข็งค่าขึ้นโดยไม่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจเท่าที่ควร การที่เงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคนั้น ส่วนหนึ่งนอกจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแล้วยังมาจากปัจจัยราคาทองคำที่มีความสัมพันธ์กับค่าเงินบาทมากกว่าสกุลเงินอื่น ทำให้เมื่อราคาทองงขึ้นเงินบาทจึงแข็งค่าไปมากกว่าสกุลเงินอื่น

“คนไทยชอบซื้อขายทองคำ ตอนทองขึ้น ก็ขายทอง เอาเงินดอลลาร์เข้ามา แล้วแลกเป็นบาท จึงทำให้บาทแข็ง เราเจอหลายเด้งวันนี้ ทั้งดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย บวกกับปัจจัยทองขึ้นด้วย เราเลยโดน 2 เด้ง แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ฝ่ายนโยบายก็ดูเรื่องนี้อยู่” นายเศรษฐพุฒิ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)