
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (22-26 ก.ย.) ที่ระดับ 31.50-32.20 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดวันศุกร์ที่ 19 ก.ย. ที่ 31.84 บาท/ดอลลาร์
ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผานมาเงินบาทอ่อนค่าลงตามแรงขายหลังมีรายงานข่าวระบุว่า ทางการอาจพิจารณามาตรการลดผลกระทบจากธุรกรรมทองคำที่มีต่อเงินบาท แต่กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ ยังคงขาดแรงหนุนที่ชัดเจนในช่วงก่อนการประชุมเฟดกลางสัปดาห์
อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ตามการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียและแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลก ขณะที่ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งสะท้อนว่า เฟดยังระมัดระวังในการประเมินจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้ออาจขยับสูงขึ้นในระยะข้างหน้า (dot plot สะท้อนโอกาสการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ และอีกเพียง 1 ครั้งปีหน้า) นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน อนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ยังไม่เห็นสัญญาณผิดปกติที่สะท้อนการเก็งกำไรค่าเงินบาท ซึ่งที่ผ่านมา ธปท. ได้เข้าดูแลเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินไม่ให้เคลื่อนไหวเร็วและแรงเกินไป
ส่วนในสัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 (final) ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้บริโภคเดือนก.ย. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 68)