๐ บมจ.เงินเทอร์โบ [TURBO] หุ้นสินเชื่อเพื่อคนตัวเล็กที่มีพอร์ตทะลุหมื่นล้าน !! เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 537 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.50 บาท P/E 12.7 เท่า พร้อมแล้วที่จะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจการเงิน ภายในเดือนกันยายนนี้
๐ TURBO คือใคร :: TURBO ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ หรือเข้าถึงได้แต่ไม่ครบถ้วน ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจได้แก่
1) ธุรกิจสินเชื่อ ประกอบด้วย สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อโฉนดที่ดิน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งธุรกิจนี้คิดเป็นสัดส่วนรายได้หลักราว 90%
2) ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งประกอบด้วยประกันวินาศภัยและประกันชีวิต คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 10% ในปัจจุบัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 68 มีสาขาทั้งสิ้น 996 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ 54 จังหวัดทั่วประเทศ
๐ แอบดูงบ TURBO ล่าสุด ::
งบปี 66 มีรายได้รวม 2,430.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 131.6 ล้านบาท
งบปี 67 มีรายได้รวม 3,033.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 141.5 ล้านบาท
งบ 6M/67 มีรายได้รวม 1,462.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61.1 ล้านบาท
งบ 6M/68 มีรายได้รวม 1,517.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 235.9 ล้านบาท
๐ TURBO กับเงิน IPO :: บริษัทต้องการใช้เงินระดมทุนสำหรับ
1) เพื่อขยายธุรกิจให้บริการการเงินของกลุ่มบริษัทฯ
2) เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์
3) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
๐ เปิดใจผู้บริหาร TURBO :: นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า เราไม่ได้มองการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้เป็นปลายทาง แต่มองว่าเป็นอีกสเต็ปหนึ่งในเส้นทางของเรา เรายังคงมุ่งขยายกิจการต่อไปเรื่อย ๆ เช่น มีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องอีกปีละประมาณ 100 สาขา เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม หรือการตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อ
หากย้อนดูช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างพอร์ตสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดจาก 3,282.0 ล้านบาทในปี 63 เป็น 11,262.9 ล้านบาทในมิ.ย.ปี 68 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 31.5% ดังนั้น ในอนาคตเราก็จะยังรักษาระดับการเติบโตไว้แบบนี้
“ที่สำคัญก็คือเราจะขยายเข้าไปยังธุรกิจนายหน้าประกันภัยมากขึ้น เชื่อว่าจะมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 10% ที่มีอยู่ในตอนนี้ แต่ยังคงไม่เกินสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสินเชื่อ เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังมีขนาดใหญ่มาก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
บริษัทเล็งเห็นโอกาสมหาศาลในตลาดประกัน เนื่องจากต่อให้เป็นเจ้าใหญ่สุดในตลาดก็ยังครองมาร์เก็ตแชร์แค่ 10% เท่านั้น ดังนั้น เราจึงเห็นโอกาสอีกมาก เราอาจจะขยายไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มสินเชื่อเดิม หรือ ลูกค้ากลุ่มออนไลน์เราก็สนใจ
“เราเห็น Pain Point ของลูกค้าว่า การซื้อประกันมันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก สิ่งที่เราอยากทำคือ เราจะทำให้การซื้อประกันมันง่าย ถ้าทำได้เราก็จะเติบโตได้อีกมากในตลาดนี้” นายสุธัชกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 68)
