อัตราว่างงานญี่ปุ่นพุ่งแตะ 2.6% ในเดือนส.ค. สูงสุดในรอบ 13 เดือน

กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า อัตราการว่างงานเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 2.3% ในเดือนก.ค. เนื่องจากมีพนักงานจำนวนมากพยายามมองหางานในตำแหน่งที่ดีขึ้น

ทางการญี่ปุ่นยังเปิดเผยว่า อัตราส่วนตำแหน่งงานต่อผู้สมัครงานในเดือนส.ค.ลดลง 0.02 จุดจากระดับของเดือนก.ค. มาอยู่ที่ 1.20 จุด ซึ่งหมายความว่ามีตำแหน่งงานว่าง 120 ตำแหน่งสำหรับผู้สมัครงานทุก 100 คน

ส่วนจำนวนผู้ที่มีงานทำลดลง 0.3% สู่ระดับ 68.1 ล้านคน และจำนวนผู้ที่ว่างงานเพิ่มขึ้น 9.1% สู่ระดับ 1.79 ล้านคน

ในจำนวนผู้ที่ไม่มีงานทำนั้น มี 770,000 คนที่ลาออกจากงานโดยสมัครใจ ซึ่งมักจะลาออกเพื่อหางานในตำแหน่งที่ดีขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 13.2% จากเดือนก.ค. และมี 430,000 คนที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งเพิ่มขึ้น 19.4%

อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีสะท้อนให้เห็นว่าภาวะตลาดแรงงานของญี่ปุ่นอ่อนแอลงเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

ภาวะขาดแคลนแรงงานเรื้อรังกำลังกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการดำเนินงานของธุรกิจในญี่ปุ่น โดยข้อมูลจาก Tokyo Shoko Research ระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.จนถึงเดือนส.ค.ปีนี้ มีบริษัท 237 แห่งยื่นล้มละลาย อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 22% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีบริษัทจำนวนมากระบุว่าไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้สมัครงานที่ต้องการค่าจ้างที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาดังกล่าว หลายบริษัทได้หันไปพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยรายงานระบุว่า ณ เดือนต.ค.ปีที่แล้ว มีแรงงานต่างชาติในตลาดแรงงานญี่ปุ่นจำนวน 2.3 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)