
โทมัส อาเรนเคียล ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกลาโหมของเดนมาร์ก เปิดเผยในวันนี้ว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการก่อวินาศกรรมต่อกองทัพเดนมาร์ก
คำกล่าวของผอ.หน่วยข่าวกรองมีขึ้น หลังจากที่ในสัปดาห์ที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์โดรนรุกล้ำน่านฟ้าจนส่งผลให้ต้องปิดสนามบินทั้งของทหารและพลเรือนจำนวน 6 แห่งเป็นการชั่วคราว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน เรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าการโจมตีแบบผสมผสาน
หน่วยข่าวกรองเดนมาร์กประเมินว่า รัสเซียกำลังดำเนินสงครามแบบผสมผสานกับเดนมาร์กและประเทศตะวันตก โดยอาศัยปฏิบัติการทางทหารเชิงรุกเพื่อกดดัน แต่ยังไม่ลุกลามไปสู่ความขัดแย้งทางทหารโดยตรง
ด้านโทรลส์ ลันด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีภัยคุกคามทางทหารโดยตรงต่อประเทศ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจเดนมาร์กเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า พบโดรนขนาดใหญ่ 2-3 ลำบินอยู่ใกล้สนามบิน ทำให้สนามบินต้องสั่งระงับการให้บริการตั้งแต่เวลา 20.26 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยข้อมูลจาก FlightRadar ซึ่งเป็นบริการติดตามเที่ยวบินระบุผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินราว 50 เที่ยวต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่น
สนามบินโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในกลุ่มประเทศนอร์ดิกหลังต้องระงับทุกเที่ยวบินขึ้น-ลงนานเกือบ 4 ชั่วโมง เนื่องจากมีผู้พบเห็นโดรนบินอยู่ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน สนามบินออสโลในนอร์เวย์ก็ประกาศปิดน่านฟ้าด้วยเหตุผลเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)