CONSENSUS: CPAXT แจ่ม! H2/68 โดดเด่น”คนละครึ่ง”หนุนยอดขาย รุกมาเลย์-ส่ง Makro บุกฟิลิปปินส์

โบรกเชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] โดดเด่นเข้าตลาด แนวโน้มผลประกอบการ H2/68 รับ High Season และการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายไตรมาส 4/68 ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายรัฐอย่างโครงการ “คนละครึ่ง พลัส”

ขณะที่การเข้าซื้อธุรกิจอาหารในมาเลเซียอย่าง Renewed Hope ก็เป็น Upside ประกอบกับ การรุกขยายธุรกิจค้าส่ง “Makro” สู่ฟิลิปปินส์ ด้วยการร่วมทุนกับ Ayala Corporation กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ท้องถิ่น เป็นการผนึกกำลังที่แข็งแกร่งและเป็นการขยายตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

ราคาหุ้น CPAXT ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 22.70 บาท

โบรกเกอร์ คำแนะนำ  ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ทิสโก้ซื้อ32.00
หยวนต้าซื้อ28.50
กรุงไทยเอ็กซ์สปริงซื้อ27.00
ฟิลลิปซื้อ27.00
ธนชาตซื้อ26.00
กสิกรไทยซื้อ25.60
บัวหลวงซื้อ25.00

นักวิเคราะห์จาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการ CPAXT ช่วงครึ่งปีหลังคาดเติบโต HoH จากปัจจัยฤดูกาลหนุน แม้การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงครึ่งปีแรกไม่สูงมาก และครึ่งปีหลังอาจจะเติบโตสอดคล้องกับครึ่งปีแรก แต่บริษัทสามารถควบคุมบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ผลบวกจากการ Synergy กับ โลตัส (Lotus’s) เข้ามาอยู่ใน CPAXT ทำให้สามารถเจรจากับซัพพลายเออร์ลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนกัน จะลดต้นทุนได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังหนุนกำไรเติบโตดีกว่า H1/68

สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัสที่จะเริ่มใช้ในไตรมาส 4/68 ด้วยฐานลูกค้าของบริษัทที่เป็นร้านโชห่วยเป็นผลบวกต่อ CPAXT แต่ยอดขายอาจไม่ได้เติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีที่แล้วมีโครงการแจกเงินหมื่นวงเงิน เทียบกันแล้วค่อนข้างสูงกว่าโครงการคนละครึ่ง แต่น่าจะเข้ามาช่วยพยุงยอดขายได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามยอดขายหลังจากที่เริ่มโครงการ

ด้านความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อประกอบธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโครในฟิลิปปินส์ ระยะสั้นอาจยังไม่เห็นผลบวกมากนัก ซึ่งจากการพูดคุยกับบริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาแม็คโครช่วงปลายปี 69 และอาจเปิดเพียง 1-2 สาขา ทำให้ Impact จำกัดเพราะเป็นช่วงเริ่มต้นขยายตลาด ซึ่งต้องติดตามผลของการบุกตลาดฟิลิปปินส์ในระยะต่อไป

ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 68 คาดกำไรเติบโต 7% YoY แม้ว่ายอดขายจะเติบโตน้อย แต่การบริหารจัดการต้นทุนดีขึ้นทำให้ผลการดำเนินงานเติบโต หากเทียบกับกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานลดลง YoY จากยอดขายลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ

ขณะที่ปี 69 ประมาณการกำไรเติบโต 11% จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค การควบคุมต้นทุน รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ส่วนการลงทุนในโครงการ Happitat คาดว่าจะยังไม่มีผลต่องบการเงินอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโดยปกติ 2 ปีแรกจะต้องบันทึกขาดทุน ประกอบกับ สัดส่วนรายได้ยังน้อยเมื่อเทียบกับรายได้รวมของบริษัท แต่โครงการนี้อาจเป็นการขยายไปสู่การทำธุรกิจแบบใหม่ ซึ่งอาจจะเห็นโมเดลใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 28.50 บาท มองว่าน่าจะยังเป็นหุ้นที่ perform ตลาดได้ดี ประกอบกับ สัปดาห์นี้โครงการคนละครึ่งพลัสเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะเริ่มใช้ได้ คาดว่าหุ้นน่าจะยืนในระดับดังกล่าวได้

บทวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า CPAXT เตรียมเปิดโครงการ Happitat ศูนย์การค้าและ Community Center โซนบางนาอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย.69 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นศูนย์รวมกิจกรรมครอบครัว ซึ่งบริษัทมองว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพสูง โดยตั้งเป้าอัตราการเช่าพื้นที่ร้านค้า 85% ในการดำเนินงานภายในปีแรก คาดผู้ใช้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 19 ล้านคนต่อปี

ปัจจุบัน CPAXT มีรายได้ค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเป็นสัดส่วนราว 3% อัตราการเช่าพื้นที่ 92% และมีอัตรากำไรขั้นต้นระดับสูงราว 55% มองว่าหากสามารถทำได้ตามเป้าจะเป็น Upside ต่อผลประกอบการปี 69

บริษัทมีแผนเปิด Makro สาขาใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 2 สาขา และปรับลดเป้าการเปิดสาขาใหม่ปีนี้ลงเหลือ 6 สาขา จากเดิม 8 สาขา เนื่องจากการออกใบอนุญาตก่อสร้างในมาเลเซียล่าช้า ในด้านของกลุ่ม Retail ตั้งเป้าเปิด Lotus’s Supermarket ในประเทศ 2 สาขา ขณะที่สาขาในประเทศมาเลเซียเลื่อนออกไปเนื่องจากปัญหาใบอนุญาตก่อสร้างเช่นกัน ส่วน Lotus’s go Fresh คงเป้าการเปิดสาขาใหม่ปีละ 200 สาขา โดยช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่มอีก 157 สาขา

บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Renewed Hope ซึ่งถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์หลักคือ Lucky Frozen ประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิต และจำหน่ายอาหารให้กับลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ห้างค้าปลีกและค้าส่งในมาเลเซีย ในสัดส่วน 100% มูลค่ารวม 1,051 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือ 8,086.97 ล้านบาท คาดใช้เงินกู้ 8,000 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยจ่ายราว 200 ล้านบาท (คิดจากอัตราดอกเบี้ย 2.5%) มองเป็น Upside ต่อผลประกอบการ เนื่องจากปี 67 บริษัท Renewed Hope มีรายได้ 8.3 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 448 ล้านบาท ประกอบกับ Synergy สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ CPAXT ที่มุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจอาหารในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ H2/68 จะเติบโตได้ HoH (Half-on-Half) จากภาพรวมการเปิดสาขาใหม่ แม้แนวโน้ม SSSG (Same-Store-Sales Growth) ในช่วงไตรมาส 3/68 จะยังไม่ฟื้นตัว แต่การเปิดสาขาใหม่จะเข้ามาสนับสนุนรายได้ให้สามารถเติบโตได้ ก่อนช่วงไตรมาส 4/68 SSSG จะกลับมาเติบโตได้ รับปัจจัยหนุนจากนโยบายสนับสนุนภาครัฐและเข้าสู่ช่วง High Season

คาดการณ์รายได้ไตรมาส 3/68 และไตรมาส 4/68 อยู่ที่ 132,383 ล้านบาท และ 136,962 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 3,358 ล้านบาท และ 2,900 ล้านบาท ตามลำดับ ภาพรวมทั้งปี 68 มีรายได้ 527,093 ล้านบาท +3.61% YoY, กำไรสุทธิ 11,187 ล้านบาท +5.85% YoY

คาดการณ์ปี 69 จะมีรายได้ 552,764 ล้านบาท +4.87% YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการมุ่งเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศทั้งธุรกิจ Wholesale และ Retail รวมถึงรับรู้ได้เต็มปีของ Renewed Hope ที่ประเมินว่าจะเป็น Upside ต่อรายได้ราว 1.7% คาดมีกำไรสุทธิ 12,376 ล้านบาท +10.63% YoY

ประเมินราคาพื้นฐานสิ้นปี 69 ด้วยวิธี P/E Multiple ใช้ค่าเฉลี่ยของกลุ่มย้อนหลัง 2 ปี (66-68) ที่ 22.5 เท่า ราคาพื้นฐาน 27 บาท/หุ้น แนะนำ “ซื้อ” Catalyst คือ การขยายสาขาใหม่, Synergy จาก M&A

บล.กสิกรไทย ระบุว่า CPAXT ร่วมมือกับ Ayala Corporation เพื่อจัดตั้งบริษัท M&Co Corporation ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่จะดำเนินธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก Makro ในฟิลิปปินส์ ทุนจดทะเบียน 3.44 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ (ประมาณ 1.9 พันลบ.) โดย CPAXT ถือหุ้น 50.1% ผ่านบริษัทย่อย MROH บริษัทฯ JV จะสร้างสาขาแรกและสำนักงานใหญ่ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินงานได้ภายในปลายปี 69 ในรูปแบบ Eco Plus เช่นเดียวกับในไทย โดยนำเสนอทั้งสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่ใช่อาหาร

Ayala Corporation (AC) เป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ก่อตั้งเมื่อปี 2377 และดำเนินงานในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายมาก ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร โทรคมนาคม การผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ บริการด้านสุขภาพ และอื่น ๆ

ในมุมมองของเรา ความร่วมมือระหว่าง CPAXT และ AC เป็นการผนึกกำลังที่ดี เนื่องจาก CPAXT เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาพื้นที่ขาย ขณะที่ AC เป็นผู้พัฒนาเชิงพาณิชย์รายสำคัญในฟิลิปปินส์ ทำให้ทั้งสองเป็นผู้เล่นที่เกื้อหนุนกันในภาคค้าปลีก

เรามองเป็นบวกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการขยายตลาดใหม่ของ CPAXT ที่มีปัจจัยพื้นฐานน่าสนใจ IMF คาดว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะเติบโต 6.1% ในปี 68 หนุนจากจำนวนประชากรขนาดใหญ่และอายุน้อยรวม 115.8 ล้านคน โดยมีอายุเฉลี่ย 26.1 ปี ตามข้อมูลของ WorldBank (2567) มูลค่าตลาดค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 60% ของขนาดตลาดค้าปลีกไทย แต่มีศักยภาพการเติบโตเชิงโครงสร้างสูงกว่า การเข้าถึงตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ (modern trade) (ประมาณ 35%) ยังคงต่ำเมื่อเทียบกับตลาดค้าปลีกแบบดั้งเดิม (traditional trade) ทำให้มีโอกาศสามารถขยายตัวได้สูง การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นประเทศที่ 4 ที่ MAKRO เข้าไปตั้งฐานต่อจากกัมพูชา (3 สาขา) เมียนมา (1 สาขา) และอินเดีย (6 สาขา)

CPAXT รายงานกำไรครึ่งแรกของปี 68 ที่ 4.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% YoY และคิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (+3.9% YoY) เราคาดว่ากำไรในครึ่งหลังของปี 68 จะเติบโตทั้ง YoY และ HoH จากยอดขายตามฤดูกาลที่สูงขึ้นและอัตรากำไรที่แข็งแกร่งขึ้น ในเชิง QTD ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวดีขึ้นเป็นบวกเล็กน้อยจากที่ทรงตัวในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. และเป็นบวกหลักเดียวระดับต่ำในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย.

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย เป็น 25.60 บาท ราคาเป้าหมายอิงวิธีคิดลดเงินสด (DCF) ที่ 25.6 บาท คิดเป็น PER ปี 69 ที่ 21 เท่า หรือราว -1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้าในอดีตของ CPAXT ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 15% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังการประกาศซื้อธุรกิจบริการอาหารในมาเลเซีย (2 ก.ย.68) และ SSSG ที่เป็นบวกเล็กน้อยในครึ่งแรกของเดือน ก.ย.68 ปัจจุบันหุ้นซื้อขายด้วย PER ปี 69 18.5 เท่า หรือราว -1.85SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยล่วงหน้าในอดีต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)