
นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัว จากแรงกดดันของ DELTA ที่ติด Trading Alert T1 ทำให้อาจเกิดแรงขายกดดันดัชนี แต่ต้องติดตามว่าเม็ดเงินจะเข้าหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มไหนบ้าง ซึ่งอาจมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ก่อนประกาศงบฯ พร้อมให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,300 จุด เป็นแนวรับแรก และแนวรับต่อไป 1,290 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีพักตัว จากการที่ DELTA ติด Trading Alert T1 ทำให้อาจจะมีแรงขายออกมา ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนีในวันนี้ หลังเมื่อวานปรับเพิ่มขึ้นมาจากแรงหนุนของ DELTA เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูว่าเม็ดเงินที่ออกจากหุ้น DELTA จะเข้าไปในหุ้นขนาดใหญ่ตัวใดบ้าง หรืออาจจะเข้าไปเก็งกำไรไนหุ้นกลุ่มแบงก์เก็งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 และหุ้นกลุ่มแบงก์เมื่อวานนี้มีการพักตัว ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,300 จุด เป็นแนวรับแรก และแนวรับต่อไป 1,290 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,358.42 จุด ลดลง 243.36 จุด หรือ -0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,735.11 จุด ลดลง 18.61 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,024.63 จุด ลดลง 18.75 จุด หรือ -0.08%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ระดับ 48,510.72 จุด ลดลง 69.72 จุด หรือ -0.14% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,523.89 จุด ลดลง 228.70 จุด หรือ -0.85% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,915.48 จุด ลดลง 18.49 จุด หรือ -0.47%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ต.ค.) 1,313.99 เพิ่มขึ้น 9.07 จุด (+0.70%) มูลค่าซื้อขาย 43,145.38 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (9 ต.ค.) 449.88 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (9 ต.ค.) ลดลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 61.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ต.ค.) อยู่ที่ 1.96 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.77 อ่อนค่าต่อเนื่อง ลุ้นแตะ 33.00
- นายกฯ เผย “ทรัมป์” ส่งหนังสือเชิญไทยร่วมลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา จ่อตอบกลับ ย้ำหากเขมร ทำตาม 4 ข้อเสนอแจง 10 ต.ค. ไทยพร้อมปฏิบัติ โยน “กองทัพ” ใช้ กม.จัดการสถานการณ์บ้านหนองจาน หากเขมรไม่ทำตามจะมีมาตรการ ยันแก้ปัญหาด้วย JBC ไทยไม่ล่าช้า เพราะเป็นฝ่ายถูกรุกราน จับตาเส้นตายให้ชาวกัมพูชา ออกจากบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว วันนี้ (10 ต.ค.) ขณะ ทภ.1 แจ้งเข้าเก็บทุ่นระเบิดเตรียมปฏิบัติการรักษาอธิปไตย “ฮุน มาเนต” จี้ไทยเร่งถกเจบีซี เคลียร์ด่วนปมบ้านหนองจาน ตามที่ตกลงในจีบีซี
- “เอกนิติ” ลุยไฟยกเครื่องระบบลดหย่อนภาษีที่ปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ชี้ต้องกำหนดเพดานที่ชัดเจน จะลดหย่อนได้เท่าใด คาดเดือน พ.ย.นี้ได้ข้อสรุป เพื่อให้มีผลต่อการยื่นแบบภาษีปี 2569 “ศุภจี” ชง ครม.เศรษฐกิจนัดแรก หารือเรื่องภาษีสหรัฐฯ และเอฟทีเอ
- 3 ซีอีโอแบงก์ ชี้ เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับดัก “เอสซีบี เอกซ์” มองแม้ไม่ใช่ภาวะวิกฤติเฉียบพลัน วิกฤติเชิงโครงสร้างซึมลึก ซ้ำเติมจากโควิด-19 ส่งผลเติบโตต่ำมากเพียง 2% “ทีทีบี” ชี้ คนไทยชน “3 กำแพงใหญ่” ถือเป็นจุดเริ่มต้น ดึง “เอเอ็มซี” แก้หนี้ ด้าน “กสิกรไทย” ชี้ไทยติดกับดักหนี้นานกว่า 40 ปี “PWC” ชี้ 5 เมกะเทรนด์ “พลิกโฉม” ธุรกิจไทย
- กกพ.กำลังตรวจสอบข้อมูลจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่รับภาระค่าก๊าซธรรมชาติ 15,000 ล้านบาท และการคืนหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 66,000 ล้านบาท ว่า หากสามารถยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปจะมีภาระดอกเบี้ยมากขึ้นเพียงใด รวมถึงราคาเชื้อเพลิงและต้นทุนค่าไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2569
หุ้นเด่นวันนี้
- ITC (ฟินันเซียไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท คาดกำไรสุทธิ Q3/68 อยู่ที่ 748 ลบ. +7% q-q, -23% y-y ถือเป็นกำไรที่ดี สามารถบริหารผลกระทบ tariff ได้ดี คาดรายได้รวมสกุลบาท +5% q-q, +6% y-y อยู่ที่ 4.7 พันลบ. แม้เจอบาทแข็ง 3% q-q และ 7% y-y และมีการ support ชั่วคราวให้กับลูกค้า US บางราย จนถึงปัจจุบันมองว่า ITC ได้รับผลกระทบ US tariff ค่อนข้างจำกัด คาดกำไรสุทธิปี 68 ที่ 3 พันลบ. –22% y-y แต่คาดปี 69 จะกลับมาเติบโตที่ 3.6 พันลบ. +20% y-y ระยะสั้นมี Sentiment หนุนจากค่าเงินบาทที่พลิกมาอ่อนค่า
- CK (ลิเบอเรเตอร์) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20 บาท ตลาดตอบรับปัจจัยกดดันจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้หน้าวชิรพยาบาลทรุดตัวไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ยังคงต้องติดตามรอสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะการก่อสร้างหรือมาจากปัจจัยอื่น เช่น ท่อประปาแตกValuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง และผลประกอบการมีแนวโน้มที่ดี มองเป็นจังหวะทยอยสะสม
- AWC (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.60 บาท มองโอกาสการเติบโตของธุรกิจระยะยาวจากสินทรัพย์กรรมสิทธิ์และถือสัญญา GOR หรือสิทธิซื้อและพัฒนาสินทรัพย์คุณภาพในอนาคตจาก TCC Group เป็นเจ้าแรก อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) แข็งแกร่ง แม้มีโมเดลธุรกิจที่เน้นการลงทุนสูงแบบ Assets-heavy และปันผลสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจเดียวกันในตลาด แม้ปี 68 คาดได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวอ่อนตัว YoY แต่มีแนวโน้มฟื้นในปี 69 จากโรงแรม MICE กลุ่มไลฟ์สไตล์อาคารสำนักงาน 6 โครงการที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปีนี้คาดอัตราการเข้าพักและเช่า (Occupancy) ที่สูงขึ้น หนุนรายได้หลักคาดเติบโต 8%/10% YoY ในปี 68/69
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)