
กระทรวงดิจิทัลของโปแลนด์เปิดเผยว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโปแลนด์ถูกโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซียได้เพิ่มทรัพยากรสำหรับการโจมตีโปแลนด์ในปีนี้มากขึ้น 3 เท่า
คริสต์ซตอฟ กาวคอฟสกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลระบุว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ มีการตรวจพบเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ทั้งหมดราว 170,000 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำการจากรัสเซีย ขณะที่บางกรณีเป็นการโจมตีเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน เช่น การขโมยข้อมูลหรืออาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่น ๆ
โปแลนด์เผชิญกับเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์วันละ 2,000–4,000 ครั้ง โดยประมาณ 700–1,000 เหตุการณ์ถือเป็นภัยคุกคามจริงหรือมีศักยภาพที่จะสร้างปัญหาใหญ่
ผู้โจมตีจากต่างประเทศเริ่มขยายเป้าหมายการโจมตีจากระบบน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียไปยังภาคพลังงาน
กาวคอฟสกีไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัดของกิจกรรมการโจมตีของรัสเซีย และไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการของรัสเซียในไซเบอร์สเปซของโปแลนด์ โดยข้อมูลเรื่องความเกี่ยวข้องที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียนั้นมาจากหน่วยข่าวกรองของโปแลนด์
ทางด้านรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกิจกรรมโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว ขณะที่สถานทูตรัสเซียในกรุงวอร์ซอยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในทันที
เจ้าหน้าที่ในกรุงวอร์ซอระบุว่า โปแลนด์ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนยูเครนอย่างเหนียวแน่นตกเป็นเป้าหมายหลักของรัสเซียในบรรดาประเทศสมาชิกนาโต และกล่าวหาว่า รัสเซียพยายามบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 68)