ทองพุ่งทะยาน!! เปิดตลาดขึ้นพรวดเดียว 1,150 บาท รูปพรรณขายออกแตะ 64,700 แม้บาทแข็งค่า

ราคาทองคำ (96.5%) ขายปลีกในประเทศเช้านี้ พุ่งขึ้นแรงบาททองคำละ 1,150 บาท รูปพรรณซื้อออกแตะ 64,700 บสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำขายปลีก (96.5%) ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.04 น.

– ทองคำแท่ง 96.5% รับซื้อ บาททองคำละ 63,800 บาท ขายออก บาททองคำละ 63,900 บาท

– ทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้อ 62,519.84 บาท ขายออก บาททองคำละ 64,700 บาท

บทวิเคราะห์จากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่ภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรคเดโมแครต-รีพับลิกัน จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ในขณะที่นาย Michael Hartnett นักยุทธศาสตร์ของ Bank of America (BoFA) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะแตะ 6,000 ดอลลาร์ในปีหน้า เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนในทองคำที่นักลงทุน หรือสถาบันต่าง ๆ ถือครองอยู่มีน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ และประธานเฟดคนใหม่ ที่เอื้อนโยบายการเงินผ่อนคลายที่อาจก่อให้เกิดฟองสบู่

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 99.24 หน่วย จาก 98.94 หน่วย สืบเนื่องมาจากเงินเยน และยูโรอ่อนค่า และนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มาตรการภาษี 100% ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศจะเรียกเก็บจากจีนในวันจันทร์นั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่จีน-สหรัฐฯ จะมีการหารือกันที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ รวมถึงยังคงมีกำหนดการพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง – ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ APEC ณ เกาหลีใต้ในวันที่ 31 ต.ค. -1 พ.ย. ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.72 ตัน รวมสุทธิ 1,018.88 ตัน

พร้อมระบุว่า ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้น มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสอบแนวต้านที่ 4,160 ดอลลาร์ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,115 ดอลลาร์ ก่อนกลับตัวเป็นขาขึ้นต่อ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,100 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น

ส่วนราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำทยอยซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 63,450 และขายทำกำไรตามแนวต้านที่ 64,050 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 63,250 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)