ธ.กลางออสซี่ชี้ ยังไม่ต้องลดดอกเบี้ยทันที ส่งซิกนโยบายในอนาคตขึ้นอยู่กับข้อมูลศก.

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย. ในวันนี้ (14 ต.ค.) ระบุว่า คณะกรรมการยังไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการยังคงปรับตัวลงช้า ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงทรงตัว พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนว่าทิศทางการดำเนินนโยบายในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมา โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อและการบริโภคในไตรมาสที่ 3/2568

รายงานการประชุมระบุว่า คณะกรรมการได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.60% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. หลังจากปรับลดมาแล้ว 3 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ในปีนี้ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงทั้งในด้านที่จะออกมาดีกว่าคาดและด้านที่จะแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้

“ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายในทันที” รายงานการประชุมระบุ พร้อมเสริมว่า “ส่วนในวันข้างหน้า การตัดสินใจของคณะกรรมการควรดำเนินไปอย่างระมัดระวังและให้น้ำหนักกับข้อมูลเป็นสำคัญ”

ด้านตลาดการเงินให้น้ำหนักราว 50% ต่อการที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 4 พ.ย. และให้น้ำหนัก 70% ที่ RBA จะปรับลดดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ ตลาดให้น้ำหนัก 100% ที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และให้น้ำหนักเพียงเล็กน้อยต่อการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.10%

ปัจจัยสำคัญที่ตลาดและคณะกรรมการ RBA จับตาคือตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ที่จะประกาศในช่วงปลายเดือนนี้ โดยข้อมูลราคาผู้บริโภครายเดือนของเดือนก.ค. และส.ค. ชี้ถึงความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 3/68 จะออกมาสูงกว่าคาด โดยเฉพาะเงินเฟ้อภาคบริการและต้นทุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัย

นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากเงินเฟ้อไตรมาส 3/68 ขยายตัวไม่เกิน 0.7% จะเปิดทางให้ RBA ผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่หากเงินเฟ้อขยายตัว 0.9% ขึ้นไป ก็อาจเป็นปัจจัยขัดขวางการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับ 0.8% จะทำให้การตัดสินใจของ RBA เป็นเรื่องที่ก้ำกึ่งอย่างยิ่ง

ในส่วนของภาวะเศรษฐกิจ คณะกรรมการประเมินว่านโยบายการเงินในปัจจุบันยังค่อนข้างคุมเข้ม แม้การลดดอกเบี้ยที่ผ่านมาจะเริ่มส่งผลให้ราคาบ้านและสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นบ้างแล้ว

ขณะที่ตลาดแรงงานโดยรวมยังคงค่อนข้างตึงตัว แม้การจ้างงานจะชะลอตัวลง แต่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ 4.2% ในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี กรรมการบางส่วนแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงที่การเติบโตของค่าจ้างในภาคเอกชนอาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด

สำหรับปัจจัยภายนอก แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง โดยผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ยังคงส่งผ่านอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่เคยประเมินไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)