ILO จ่อเลิกจ้างพนักงาน หากสหรัฐฯ ไม่ยอมจ่ายเงินสมทบค้างจ่าย

องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) กำลังเผชิญปัญหากระแสเงินสดที่วิกฤติ และอาจจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากถึง 295 ตำแหน่ง หรือราว 8% ของพนักงานทั้งหมด หากสหรัฐฯ และประเทศสมาชิกอื่น ๆ ไม่ชำระค่าธรรมเนียมที่ค้างอยู่

เอกสารร่างความยาว 35 หน้า ซึ่งส่งให้พนักงานเมื่อวันจันทร์โดยกิลเบิร์ต ฮองโบ ผู้อำนวยการใหญ่ของ ILO ระบุข้อเสนอเพื่อปฏิรูปองค์กรแห่งนี้ ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมสิทธิแรงงานระหว่างประเทศ พร้อมแนวทางลดค่าใช้จ่าย

ข้อเสนอเหล่านี้ซึ่งรวมถึงการย้ายพนักงานหลายสิบตำแหน่งออกจากสำนักงานใหญ่ที่นครเจนีวานั้น จะเข้าสู่กระบวนการหารือเพิ่มเติม ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารของ ILO ในเดือนพ.ย.

สหรัฐฯ เป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของ ILO ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2512 จากบทบาทในการยกระดับสภาพแรงงานทั่วโลกและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมีส่วนช่วยลดการใช้แรงงานเด็กในหลายประเทศ

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการปรับลดงบประมาณจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานมากเพียงใด โดยสหรัฐฯ ซึ่งสมทบงบประมาณประจำของ ILO ถึง 22% นั้นยังค้างชำระมากกว่า 173 ล้านฟรังก์ ขณะที่จีน เยอรมนี และประเทศอื่น ๆ ก็ชำระเงินสมทบล่าช้าเช่นกัน

ทั้งนี้ ILO ซึ่งมีพนักงานราว 3,500 คนทั่วโลกทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง เพื่อกำหนดมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)