KTB บวกนำกลุ่มแบงก์ รับกำไร Q3/68 ดีกว่าคาด ตั้งสำรองหนี้-ค่าใช้จ่ายลดลง

เมื่อเวลา 10.10 น.

  • KTB บวก 2.91% มาที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 536.22 ล้านบาท
  • BBL บวก 1.93% มาที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,788.27 ล้านบาท
  • KBANK บวก 1.13% มาที่ 179.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,704.85 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย ระบุ ธนาคารกรุงไทย [KTB] ให้ราคาพื้นฐาน 26.25 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB หลังรายงานกำไร 3Q25 ที่ 1.46 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 31% QoQ และ 32% YoY ผลประกอบการสูงกว่าคาด 18% และสอดคล้องกับประมาณการของตลาด กำไรที่สูงกว่าคาดเกิดจากกำไรจากการลงทุนที่รับรู้ได้สูงกว่าคาดและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Opex) ต่ำกว่าคาด 7% ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีจำกัดในช่วงเวลาที่เหลือโดยประเมิน terminal rate ในการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1% เทียบกับระดับปัจจุจันที่ 1.50% ที่ช่วยลดแรงกดดันในกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้เราประเมิณ KTB มีโอกาสในการทำcapital management เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่ม payout ratio เองก็ตาม

บล.พาย ระบุว่า KTB รายงานกำไรสุทธิออกมาที่ 14.6 พันล้านบาท (+32% YoY, +32% QoQ) ปัจจัยหลักหนุนกำไรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจำก (1) กำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธธรรมผ่านกำไร (FVTPL) สูงขึ้น (+151% YoY, +73% QoQ) (2) รายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้นจำกธุรกิจ Wealth Management (3) สำรองหนี้ฯ ลดลง Credit cost ลดลงที่ 110 bps (-20 bps YoY, -14 bps QoQ) และ (4) ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง โดย Cost to income ลดลงที่ 37.7%

ขณะที่ NIM ลดลงที่ 2.8% (-57 bps YoY, -13 bps QoQ) ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

สินเชื่อรวมลดลง 3% QoQ จากการชำระคืนของสินเชื่อภาคธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐ และการบริหาร Portfolio เพื่อรักษาสมดุลด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน ส่งผลให้สินเชื่อใน 9M25 ลดลง 3.9% YTD

NPL ratio ทรงตัว QoQ อยู่ที่ 2.9% ขณะที่ Coverage ratio ปรับขึนแข็งแกร่งที่ 206.6%

ดังนั้น คาดกำไรสุทธิในปี 2568 จะปรับสูงขึ้น 4.4% อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อเนื่องให้ NIM ปรับลดลงต่อเนื่องในปี 2569 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2569 จะปรับลดลง 3% ดังนั้น การเติบโตจะไม่ใช่ปัจจัยหลักต่อการลงทุนในปี 2569 แต่เป็นงบดุลที่แข็งแกร่ง และผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่เราคาดว่าจะ สูงกว่า 6.3%/6.1% ในปี 2568-2569

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 68)