หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งในกรอบ เริ่ม “คนละครึ่งพลัส” หนุน จับตาประชุมเฟด-เจรจาการค้า

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ แต่อาจมีปัจจัยหนุนพยุงดัชนีจากการเริ่มโครงการคนละครึ่งพลัส วันแรก ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในประเทศกลับมาคึกคัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังรอการประชุมเฟดคืนนี้ และติดตามการเจรจาการค้าสหรัฐและจีน พร้อมให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,310 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ แต่อาจจะมีปัจจัยหนุนที่พยุงดัชนีได้จากการที่วันนี้เป็นวันเริ่มต้นโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นวันแรก ทำให้บรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอยในประเทศจะกลับมาคึกคัก หนุนหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยที่ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้เกี่ยวกับการพิจารณาดอกเบี้ยสหรัฐ และการพิจารณาการใช้นโยบาย “คุมเข้มเชิงปริมาณ” (Quantitative Tightening) หรือ QT ของเฟด รวมถึงยังรอติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่วนตลาดหุนอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,320 จุด แนวรับ 1,310 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,706.37 จุด เพิ่มขึ้น 161.78 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,890.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ +0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,827.49 จุด เพิ่มขึ้น 190.04 จุด หรือ +0.80%
  • ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดที่ระดับ 50,453.64 จุด เพิ่มขึ้น 234.46 จุด หรือ +0.47% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,990.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด หรือ +0.05% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลสารทจีน
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ต.ค) 1,314.28 จุด ลดลง 9.24 จุด (-0.70%) มูลค่าซื้อขาย 44,039.59 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (28 ต.ค) 1,870.53 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (28 ต.ค) ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 60.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ต.ค) อยู่ที่ 8.83 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.33 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดจับตาสัญญาณดอกเบี้ยเฟด-ราคาทอง
  • “เอกนิติ” ผนึกแบงก์ชาติลุยแก้หนี้รายย่อยต่ำกว่า 100,000 บาทใช้เงินกองทุนฟื้นฟู 2.6 หมื่นล้านซื้อหนี้เสียแบงก์รัฐ-แบงก์เอกชนและนอนแบงก์ ผู้ว่าฯ ธปท.เผยนำร่อง “SAM-บบส.อารีย์” รับโอน-บริหารหนี้เสีย เฟสแรก 2 ล้านราย วงในชี้ชง ครม.เศรษฐกิจสัปดาห์หน้า เผยโปรไฟไหม้ก๊อกสุดท้ายช่วยลูกหนี้ปิดบัญชี ธปท.ปลดล็อกจัดตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์เปิดทางแบงก์รัฐเข้าร่วม
  • “พิพัฒน์” นัดถก สกพอ.-รฟท.วันที่ 3 พ.ย.นี้ เคาะแนวทางสางปัญหา “ไฮสปีด 3 สนามบิน” ชี้กรอบรัฐบาล 4 เดือน แม้ไม่เริ่มงานก่อสร้างได้ ตั้งเป้าเคลียร์ปัญหาให้มีแนวทางเดินหน้าชัดเจน เปิดออปชั่นเสริม เจรจา CP เดินหน้าไฮสปีดถึงตราด
  • เดินหน้าความร่วมมือ “แร่หายาก” กับสหรัฐ ภายใต้ MOU ไม่ผูกพันกฎหมาย มุ่งพัฒนาห่วงโซ่อุปทานต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อม เปิดช่องเจรจาลดภาษีและสิทธิพิเศษการค้า “กฤษฎีกา” แจงชัดไม่ยกสิทธิ์เหมืองให้สหรัฐ “วีระพงษ์” เตือนต้องเจรจาอย่างรอบคอบ โปร่งใส และรักษาสมดุล “สหรัฐ-จีน” ไม่ให้ไทยตกเป็นเบี้ยล่างในศึกแร่แห่งอนาคต
  • “พิพัฒน์” ลั่นไทยพร้อมทุกด้านเป็น “ฮับการบินภูมิภาค” ย้ำ “จิ๊กซอว์” สำคัญ คือ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ด้าน AOT เปิดตัว Master Plan ใหม่มุ่งสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ Aviation Hub เดินหน้าขึ้นค่า PSC 200-500 บาท ชงบอร์ดชี้ชะตาคิง เพาเวอร์ ขณะที่การบินไทย ระบุต้องพึ่งสายการบินเจ้าบ้านเป็นหัวใจสำคัญ SKY ย้ำพร้อมสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานโลก AOTGA ชี้ Cargo Terminal ต้องพร้อมใช้งานครบวงจร ด้าน BLS คาดโครงการนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่ม 33,000 ล้านบาทต่อปี
  • คลัง ยืนยันความพร้อมโครงการคนละครึ่งพลัสเริ่มใช้จ่ายวันแรกวันนี้ (29 ต.ค. 2568) ไม่สะดุด ธนาคารกรุงไทย (KTB) สามารถรองรับธุรกรรมผ่านเป๋าตังได้เต็มศักยภาพ ล่าสุดมีร้านค้าที่เข้าร่วมแล้วเกือบ 6 แสนร้านค้า (นับรวมร้านค้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ 1 แสนร้านค้า) คิดเป็น 66.67% จากเป้าหมาย 9 แสนร้านค้า ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ร้านค้าลงทะเบียนเพิ่มอย่างต่อเนื่องถึงวันที่ 19 ธ.ค. 2568 นี้ ซึ่งจบจากเฟสนี้แล้ว ร้านค้ายังสามารถต่อยอดการขายไปสู่เฟส 2
  • พาณิชย์ชงโมเดล’ควิกบิ๊กวิน’ ยื่น ครม.ไฟเขียวต้น พ.ย.นี้ สอดรับ 7 เสานโยบายหลัก’ศุภจี’ กพช.อนุมัติเงินกองทุนอนุรักษ์ 1.5 หมื่นล้าน ดันโครงการเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชน ปี’69 เคาะ 9 พันล้านให้ ก.พลังงานช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร รพ.รัฐ หั่นค่าสาธารณูปโภค

หุ้นเด่นวันนี้

  • CBG (คิงสืฟอร์ด) “ทะยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 58.28 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 มีโอกาสอ่อนตัว YoY QoQ จากความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา แม้รายได้ในประเทศไทยเองจะมีแรงหนุนจากกลยุทธดึงส่วนแบ่งตลาด(การคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท) ขณะที่แบรนด์เบียร์ยังเป็นที่นิยม ส่วนการดำเนินงาน 4Q68 คาดหวังการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ และชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มผ่อนคลายลง ทั้งนี้ ระยะถัดไปยังจะมีปัจจัยหนุนจาการร่วมมือกับ Tsingtao ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ CBG* จะอยู่ที่ 2,965 ลบ.(+4%YoY) และ 3,163 ลบ.(+7%YoY)
  • SYNEX (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.70 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ที่ 218 ล้านบาท (+14%q-q, +29%y-y) หนุนจากยอดขายที่เติบโตทั้งสินค้า Apple, Wearable และ Gaming อัตรากำไรขั้นต้นคาดทรงตัว q-q และ y-y ส่วน SG&A คาดหดตัว q-q เล็กน้อย Valuation ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 12.3 เท่า และคาดอัตราปันผลที่ 4.8%
  • BCP (กสิกรไทย) ราคาพืน้ฐาน 35.50 บาท มองเชิงบวกแนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดกำไร 1.9 พันลบ.พลิกจากขาดทุนสุทธิ 2.1 พันลบ.ไตรมาส 3/67 และขาดทุนสุทธิ 2.6 พันลบ.ไตรมาส 2/68 จากการฟื้นตัวของทุกหน่วยธุรกิจ ค่าการกลั่น (GRM) คาดเพิ่มขึ้น 116% YoY และ 38% QoQ สู่ 7.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากส่วนต่างดีเซลสูงขึ้น อัตราการกลั่นรวมคาดเพิ่มขึ้น 2% YoY และ 10% QoQ สู่ 265 KBD จากการที่โรงกลั่น BSRC ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันกำไรใน Q4/68 จะได้แรงหนุนจาก GRM แนวโน้มปรับตัวดีขึ้นแตะ 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากอัตราการกลั่น BSRC สูงขึ้น ส่วนธุรกิจค้าปลีกน้ำมันคาดจะดีขึ้นจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และอัตรากำไรน้ำมันดีขึ้นในช่วงราคาน้ำมันขาลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 68)